สรรพากรคาดเริ่มเก็บภาษีขายหุ้นได้ราวพ.ค.ปีหน้าเชื่อกระทบตลาดระยะสั้น
สรรพากรเชื่อเก็บภาษีขายหุ้นจะกระทบสภาพคล่องในลดระยะสั้น ชี้หลักการจัดเก็บถูกต้องและศึกษามาเป็นอย่างดี ยันต้นทุนจัดเก็บใกล้เคียงประเทศอื่น ประเมินระยะเวลาจัดเก็บจริงเริ่มพ.ค.ปีหน้า
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า เรื่องการจัดเก็บภาษีหุ้นนั้น เรามั่นใจว่า ได้ศึกษาเรื่องนี้มาอย่างดีพอ แต่การจัดเก็บภาษีเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถประชาพิจารณ์เพื่อสอบถามความเห็นประชาชนได้ เพราะแน่นอนว่า จะไม่มีใครเห็นด้วย ฉะนั้น เราต้องอาศัยว่า เราต้องศึกษามาอย่างดีพอ
อย่างไรก็ดี ในการศึกษานั้น เราได้รับฟังข้อเสนอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาปรับให้สอดคล้องกับแนวทางการจัดเก็บแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการให้ระยะเวลาในการจัดเก็บ พร้อมกับการลดอัตราการจัดเก็บลงครึ่งหนึ่ง
ส่วนเรื่องผลได้ผลเสียเมื่อเก็บภาษีแล้วมีการมองว่า จะเกิดความไม่คุ้มค่า เนื่องจาก วอลุ่มตลาดปรับลดลง เขากล่าวว่า ณ วันนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า ในระยะข้างหน้าตลาดจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนว่า เมื่อมีภาษีการขายหุ้นแล้ว อาจจะกระทบต่อสภาพคล่องการลงทุนบ้าง แต่จะรุนแรงแค่ไหน ยังไม่รู้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่านโยบายดังกล่าวจะกระทบในระยะสั้น เพราะเราเชื่อว่า หลักการในการจัดเก็บนั้น ถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่ของใหม่ เป็นเรื่องที่เราจัดเก็บอยู่แล้ว แต่ได้ยกเว้นมานาน ขณะเดียวกัน อัตราที่เริ่มใช้ก็ลดลงจากอัตราที่จัดเก็บจริงในปีแรก เพื่อดูผลกระทบ ทั้งนี้ กรมฯประเมินว่า ระยะเวลาที่จะเริ่มจัดเก็บภาษีขายหุ้น คือ ช่วงเดือนพ.ค.ปีหน้า
“เราดูแล้ว อัตราที่เราใช้ก็เทียบเคียงกับตลาดหุ้นอื่นๆรอบบ้านเรา และไม่เข้าใจว่า ทำไมเวลาเราเทียบกับตลาดหุ้นอื่น จะเทียบกับสิงคโปร์ตลอด ไม่เทียบกับประเทศอื่นที่เก็บทั้งภาษีซื้อขายและCapital Gain ซึ่งประเทศที่เก็บภาษีดังกล่าวก็เป็นศูนย์กลางการเงินอีกด้วย”
เขายืนยันด้วยว่า การจัดเก็บภาษีหุ้นดังกล่าว โดยหลักการแล้ว เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีเพราะผู้ลงทุนประเภทอื่นก็เสียภาษีเหมือนกัน แม้กระทั่งการฝากเงิน ผู้ฝากก็เสียภาษี การซื้อพันธบัตรก็เสียภาษี ฉะนั้น ก็มีคำถามว่า ทำไมเทรดหุ้นจึงไม่เสียภาษี