สรรพสามิตเล็งเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต
สรรพสามิตเล็งเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิตเพื่อดูแลสังคม หลังพบมีการสูบและขายกันอย่างแพร่หลาย โดยอยู่ระหว่างการศึกษา คาดแล้วเสร็จภายในปีงบ 66 นี้
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯอยู่ระหว่างศึกษาการนำสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในพิกัดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต หลังจากพบว่า ขณะนี้ บุหรี่ไฟฟ้ามีผู้บริโภคจำนวนมาก ขณะที่ กรมฯไม่สามารถจัดเก็บภาษีและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าได้
“บุหรี่ไฟฟ้านั้น เราเห็นสูบกันอย่างแพร่หลาย แต่ทุกวันนี้ เราไม่มีอำนาจในการจับกุมหรือจัดเก็บภาษี คนก็จะบอกว่า ทำไมกรมฯไม่ทำอะไร ก็เพราะไม่ได้อยู่ในพิกัดการจัดเก็บภาษีของเรา ดังนั้น ผมก็จะจัดให้มาอยู่ในพิกัดเรา ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษา ตั้งใจจะให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 66 นี้”
ทั้งนี้ กรณีที่มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในพิกัดสรรพสามิต โดยมองว่า จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายนั้น เขากล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ถือเป็นคนละเรื่องกัน เพราะเรื่องที่จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ เมื่อยังไม่เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย กรมฯก็ควรมีหน้าที่เข้าไปปราบปราม ซึ่งต้องนำสินค้าดังกล่าวเข้ามาอยู่ในพิกัด จึงจะสามารถจับกุมได้
“มีคนไม่เห็นด้วย บอกว่า จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายหรืออย่างไร ผมบอกคนละเรื่อง เรื่องการให้ถูกฎหมายอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ไม่เกี่ยวกับสรรพสามิต เหมือนรถจดประกอบ กรมขนส่งไม่ให้จด เขาไม่ให้วิ่งในประเทศ แต่รถจดประกอบอยู่ในพิกัดสรรพสามิต ใครทำรถจดประกอบผิดกฎหมาย สรรพสามิตก็เข้าไปจับได้ ผมก็จะทำเช่นเดียวกันกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยเอามาอยู่ในพิกัดก่อน”
ทั้งนี้ การศึกษานำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การจัดเก็บภาษีของกรมฯที่เน้นในเรื่องของESG โดยบุหรี่ไฟฟ้าจัดอยู่ในสินค้าที่ต้องจัดเก็บภาษีและปราบปรามเพื่อดูแลสังคม