วิริยะประกันภัย เผยตลาดรถอีวี ลูกค้าทำประกันทะลัก 5.2 พันคัน ขึ้นแท่นเบอร์ 1

วิริยะประกันภัย เผยตลาดรถอีวี ลูกค้าทำประกันทะลัก 5.2 พันคัน ขึ้นแท่นเบอร์ 1

วิริยะประกันภัย ประกาศแผนงานปี 2566 เผยตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ลูกค้าทำประกันลัก 5.2 พันคัน ขึ้นแท่นเบอร์ 1 พร้อมเดินหน้ารุกพัฒนานวัตกรรมบริการทั้ง ช่องทางตัวแทน -สินไหม-ผลิตภัณฑ์ หวังดันเป้าเบี้ยรับรวมโต 6% แตะ 4.3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ 3.5 หมื่นล้าน ทางด้าน

นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางด้านการรับประกันภัยรถไฟฟ้า บริษัทได้เตรียมความพร้อมมากว่า 4 ปีแล้ว โดยได้ศึกษามาตั้งแต่วิวัฒนาการจากรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด จนมาสู่ระบบไฟฟ้าเต็มตัว ซี่งเป็นการพัฒนาร่วมกันกับผู้ประกอบการ ตลอดไปถึงสถาบันการศึกษาที่มีความรู้ความชำนาญทางด้านนี้

อีกทั้งความรู้ที่ได้รับและผลพันธ์ที่ได้พัฒนาร่วมกันดังกล่าว ได้ส่งต่อไปเป็นองค์ความรู้ให้กับบุคลากรด้านสินไหมทดแทน และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย ซึ่งในปีนี้จะขยายองค์ความรู้ไปยังกลุ่มตัวแทนนายหน้าในสังกัดอีกด้วย

โดยในปัจจุบันวิริยะประกันภัยได้ให้ความคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วจำนวน 5,286 คัน และยังคงเป็นบริษัทที่รับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน

 

 

 

 

บริษัทมีความพร้อมอย่างเต็มที่ ในการขับเคลื่อนบริการสินไหมทดแทนด้วยนวัตกรรมด้านประกันภัยที่ทันสมัย เช่น การดูแลสินไหมรถยนต์ EV ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งโซนยุโรปและเอเชีย ต่างก็แข่งกันพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ EV เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย หลายค่ายทยอยเปิดตัวรถยนต์ EV รุ่นใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

"เรามีความพร้อมอย่างเต็มกำลังในการรองรับตลาดรถยนต์ EV ทั้งในส่วนบุคคล และเชิงพาณิชย์ เนื่องจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจชั้นนำ หรือแม้แต่องค์กรภาครัฐต่างก็หันมารณรงค์การใช้รถยนต์ EV เพื่อขับเคลื่อน Green Economy System สร้างเศรษฐกิจควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อสังคมไทยเติบโตแบบยั่งยืน"

 

พร้อมกันนี้ นายอมร กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2566 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวม เติบโต 6% อยู่ที่ 43,000 ล้านบาท เป็นประกันภัยรถยนต์ 37,600 ล้านบาท เติบโต 5% และ เบี้ยประกันภัยนอนมอเตอร์ 5,700 ล้านบาท เติบโต 11%

จากปี 2565 อยู่ที่ 40,991 ล้านบาท เติบโต 5.78%  % เป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 35,847 ล้านบาท ส่วนเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือนอนมอเตอร์ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 5,144 ล้านบาท                                                                 

 

โดยบริษัทยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันภัย และมีความมั่นคง ด้วยสินทรัพย์อยู่ที่ 69,946.94 ล้านบาท ด้านอัตราส่วนเงินกองทุนที่ 154.97% สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด

"ในปีที่ผ่านมาผู้คนในสังคมได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายและไม่สามารถควบคุมได้ และเลือกใช้ระบบประกันภัยเข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง จึงกลายเป็นปัจจัยบวกทำให้ภาพรวมของธุรกิจประกันภัยในปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งประเมินกันว่าจะเติบโตอยู่ที่ 3.5-4.5%" 

สำหรับกลยุทธ์ดำเนินงานในปี2566 จะอยู่ภายใต้แนวคิด “ปีแห่งนวัตกรรมบริการ : ทุกความเสี่ยงภัย เราพร้อมเคียงข้างคุณ” มุ่งต่อยอดพัฒนาด้านเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมบริการ  ที่มีมาตรฐานเดียวกัน สอดรับความต้องการแต่ละพื้นที่ 

วางเป้าประสงค์หลักไว้ 3 เป้าหมายด้วยกัน คือ 1.ช่องทางการขาย ยกระดับให้สำนักงานมาตรฐานตัวแทนเป็นสำนักงานดิจิตอล สามารถออกกรมธรรม์ให้ลูกค้าได้ด้วยตัวของสำนักงานเอง  

2.บริการสินไหมทดแทน นอกจากระบบเคลมออนไลน์ “VClaim on VCall” แล้ว ยังคงขยายพื้นที่ให้บริการที่เรียกกันว่า “จุดรอตรวจสอบอุบัติเหตุ” ทั่วไทย และมี AI มาทำหน้าที่ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น ควบคู่กับพนักงานสินไหมทดแทนที่มากประสบการณ์ เพื่อที่จะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

และ 3.การพัฒนาผลิตภัณฑ์  ในปีนี้จะลงลึกถึงความต้องการของผู้คนในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการประกันภัยรถยนต์หรือประกันภัยสุขภาพที่ลงลึกถึงการตลาดแบบ Personalization ผลิตภัณฑ์ความคุ้มครองเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 8 ล้านกรมธรรม์