ไทยพาณิชย์เล็งหาพันธมิตรแชร์ลดต้นทุนธุรกรรม

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)เปิดเผยว่า ขณะนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารต้องพิจารณาปรับโครงสร้างใหม่ แต่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ เนื่องจาก ธุรกรรมที่ค่าธรรมเนียมนั้น มีหลายประเภท โดยธนาคารจะพิจารณาจากธุรกรรมที่สามารถสร้างมูลค่า และเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ลูกค้ายอมรับได้

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า ในช่วงรอยต่อการเข้าสู่โลกดิจิทัล และสังคมไร้เงินสด จะมีทั้งลูกค้าที่ยังปรับตัวไม่ได้ และใช้เงินสดอยู่ และมีบางกลุ่มที่พร้อมเข้าสู่ดิจิทัล ดังนั้น ธนาคารจึงจำเป็นต้องเก็บรักษาโครงสร้างค่าธรรมเนียมแบบเดิมไว้ ซึ่งก็เป็นต้นทุนจำนวนมหาศาล เช่น ต้นทุนของเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งมีทั้งต้นทุนการดูแลรักษา รวมถึง การลงซอฟต์แวร์ป้องกันภัยทางการเงิน ซึ่งมีต้นทุนในการลงทุนระบบค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับการทำธุรกรรมจริงของลูกค้าในปัจจุบัน

ทั้งนี้  ธนาคารไทยรวมถึงสมาชิกสมาคมธนาคารไทย ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางปรับโครงสร้างธรรมเนียม โดยมีแนวคิดการทำตู้เอทีเอ็มสีขาว (White Label ATM) เพื่อให้สอดคล้องกับดิจิทัลเพย์เมนท์ ในส่วนของธนาคารมองการบริหารรายได้ค่าธรรมเนียมออกเป็น 2 แนวทาง คือ 1.พยายามให้ลูกค้าเข้ามาใช้ดิจิทัลมากที่สุด โดยเฉพาะโมบายแบงกิ้ง ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าที่ใช้ SCB EASY ราว 16-17 ล้านคน และ 2.การเจรจาหาพันธมิตรซึ่งเป็นสถาบันการเงินด้วยกัน โดยจะทำงานร่วมกันเพื่อแชร์ต้นทุนร่วมกัน และมีการเฉลี่ยเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการร่วมกันเป็นระบบเดียว ซึ่งดำเนินการได้โดยที่ไม่รอให้ครบทุกธนาคาร อย่างไรก็ดี แนวทางสำคัญธนาคารยังคงเน้นเรื่องของการผลักดันลูกค้าเข้าสู่ดิจิทัลมากที่สุดเป็นอันดับแรก

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์