KX ยกระดับ Bigfin เชื่อม Binance รองรับนักลงทุนคริปโทฯทั่วโลก

KX ยกระดับ Bigfin เชื่อม Binance รองรับนักลงทุนคริปโทฯทั่วโลก

KX พัฒนา Bigfin เครื่องมือติดตาม และวิเคราะห์การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีไปอีกขั้น เพิ่มการเชื่อมต่อกับ Binance กระดานเทรดคริปโทเคอร์เรนซี พร้อมเดินหน้าพัฒนาฟีเจอร์ต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานนักลงทุนเมื่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาคึกคัก

        นายธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Venture Director บริษัท กสิกร เอกซ์ จำกัด (KX) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล ยังคงอยู่ในสภาวะตลาดหมีมาตั้งแต่ปลายปี 2564 ทำให้นักลงทุนที่ยังให้ความสนใจในคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มมีเวลาในการจัดระเบียบพอร์ตการลงทุน รวมถึงสรรหาเครื่องมือที่จะใช้ในการติดตามผล และประกอบการตัดสินใจ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อสถานการณ์ฟื้นตัวกลับมา

       โดย KX ได้มีการนำเสนอ Bigfin ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ และดูแลพอร์ตการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนของตัวเองได้อย่างง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

      ล่าสุด Bigfin ได้เพิ่มช่องทางการเชื่อมต่อกับ Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ราว 128 ล้านบัญชี ณ สิ้นปี 2565 เพื่อให้ผู้ใช้ที่มีบัญชี Binance ทั้งในไทย และทั่วโลก (ยกเว้นผู้ใช้งานBinance.US) สามารถติดตามผลกำไรขาดทุนของพอร์ตโฟลิโอตัวเองได้ครบถ้วนมากขึ้น 

       ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ของ Bigfin ที่พัฒนาเพื่อตอบสนองการใช้งานกลุ่มนักลงทุนคริปโต ทั้งผู้ที่เป็นนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการจดบันทึกการเทรด เพื่อให้ทราบข้อมูลสถานะการลงทุนของตนเอง เช่น ต้นทุน ผลกำไร-ขาดทุน ประสิทธิภาพในการเทรดเบื้องต้น เป็นต้น รวมถึงนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามตัวเลขในการลงทุน 

.       ทั้งนี้ ในการเชื่อมต่อกับ Binance ช่วงแรกนั้น Bigfin จะอ่านข้อมูลได้ 200 เหรียญ ตามอันดับมูลค่าตลาด(Market Cap)คู่กับเหรียญคริบโตที่ตรึงมูลค่า 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (Stable Coin) อย่าง USDT, USDC และ BUSD โดยจะมีการพัฒนาเพิ่ม Chain และเหรียญอื่นๆ มากขึ้นในอนาคตต่อไป KX ยกระดับ Bigfin เชื่อม Binance รองรับนักลงทุนคริปโทฯทั่วโลก

       สิ่งที่ทำให้ Bigfin แตกต่างจากเครื่องมือวิเคราะห์ และดูแลพอร์ตการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่นคือ การนำข้อมูลธุรกรรมของผู้ใช้งานมาคำนวณหาต้นทุนที่แท้จริงด้วยวิธีการคำนวณแบบ First In, First Out (FIFO) ของแต่ละเหรียญ ตั้งแต่เริ่มต้นเทรดรายการแรก 

       จึงสามารถคำนวณหาต้นทุนของการซื้อขายบนกระดานเทรดได้แม่นยำกว่า เช่น Realized P/L (กำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง)/Unrealized P/L (กำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ทั้งแบบแยกรายเหรียญ และภาพรวมทั้งพอร์ตได้แม่นยำกว่า

.      ซึ่งการดู Realized/Unrealized P/L นับเป็นฟีเจอร์ที่ถูกใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้จุดเด่นของ Bigfin ได้แก่ การดูกราฟมูลค่าย้อนหลังของพอร์ตจนถึงปัจจุบัน การดูผลกำไร-ขาดทุนของพอร์ตรวมและดูแยกเป็นรายสินทรัพย์  การดูรายการธุรกรรมการเข้าออกของสินทรัพย์ในกระเป๋าเงินดิจิทัล(Wallet) และค่าธรรมเนียมต่างๆ 

       โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ ชัดเจน เข้าใจง่าย และ ฟีเจอร์ Crypto Deposit Edit เพื่อบันทึกต้นทุนของเหรียญที่รับโอนมาด้วยตนเองได้ เช่น จาก Airdrop หรือจากการซื้อขายนอกกระดาน เพื่อคำนวณผลกำไร ขาดทุนได้แม่นยำขึ้น

        ปัจจุบัน Bigfin มีการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ชั้นนำของไทยและโลก ได้แก่ Bitkub Ethereum และล่าสุด คือ Binance โดย KX จะเดินหน้าพัฒนาฟีเจอร์ของ Bigfin อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมรองรับการใช้งานสำหรับนักลงทุนเมื่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาคึกคัก 

.      ทั้งนี้ ปัจจุบันในประเทศไทยที่มีบัญชีผู้ลงทุนคริปโทฯ ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดราว 3 ล้าน บัญชี และบัญชีทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านบัญชี สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดและสมัครใช้งานได้ที่ https://bigfin.finance  

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์