TTB ย้ำมาตรการแก้หนี้ยั่งยืน ธปท.ไร้กระทบแบงก์พาณิชย์ หนุนลูกค้าดีเพิ่ม
TTB ย้ำมาตรการแก้หนี้ยั่งยืนของ ธปท.ไม่กระทบแบงก์พาณิชย์ และยังช่วยหนุนลูกค้าดีกลับมามากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของเรามุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้น ผ่านเงินกู้ มีประโยชน์ บ้าน รถ มนุษย์เงินเดือน ไร้กังวลหน้าผาหนี้
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TTB เปิดเผยว่า มาตรการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า ไม่กระทบกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีการให้อัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับแนวทาง ธปท.ที่ดูแลอยู่แล้ว และเรามองว่าจะส่งผลดีต่อธนาคารพาณิชย์ในระยะยาว ทำให้มีลูกค้าที่ดีกลับเข้ามากขึ้น
ทั้งนี้ สอดรับกับวิสัยทัศน์ของธนาคาร ที่วางเป้าหมายทำให้คุณภาพชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้นอย่างยั่งยืน มุ่งพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่สนับสนุนให้ลูกค้ารายย่อย เป็นลูกค้าดีสามารถเข้าแหล่งเงินได้ ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และมีการก่อหนี้ที่เป็นประโยชน์ ด้วยสินเชื่อ 3 กลุ่มได้แก่ บ้าน รถยนต์ และมนุษย์เงินเดือน
“ มาตรการแก้หนี้อย่างยั่งยืนของ ธปท.เป็นการดูแลหนี้ครัวเรือนในภาพรวมทุกกลุ่ม และมีความพยายามเข้าไปช่วยเหลือการก่อหนี้ที่ไม่เป็นประโยชน์ และมีต้นทุนสูง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนอนแบงก์ สหกรณ์ และแบงก์รัฐ ขณะเดียวกันในส่วนลูกหนี้กลุ่มเรื้อรังนั้น หลังจากที่ธนาคารควบรวมมาประมาณ 2 ปีนั้น เทียบจะไม่มี เนื่องจากธนาคารมีการบริหารจัดการลูกหนี้ที่ดี และทำให้ไม่มีความกังวลเรื่องหน้าผาหนี้"
นายปิติ กล่าวว่า สำหรับในไตรมาส 2/2566 ธนาคารมีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ระดับ2.6% โดยที่ผ่านมาได้มีการตัดหนี้เสียขายมาตั้งแต่ช่วงโควิด และธนาคารพยายามถอนตัวออกจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของ ธปท.ได้ทั้งหมดแล้ว ก่อนที่จะสิ้นสุดมาตรการ และธนาคารได้มีการตั้งสำรอง และเงินลงทุนเพิ่มเติมในระดับที่สูงแล้ว
" แนวโน้ม NPL หลังจากนี้ยังคาดการณ์ได้ยาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า และเศรษฐกิจโลกมีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครึ่งปีหลังนี้แต่หวังว่าจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นธนาคารจะพยายามสร้างภูมิคุ้มกันของตัวเอง ในระดับสูงไว้ก่อน"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์