จีดีพี Q2/66 ญี่ปุ่น โตเกินคาดที่ 6% อานิสงส์ ‘เยน’ อ่อนค่าหนัก ทำส่งออกรถโต
ตัวเลข GDP ญี่ปุ่น ในช่วงเดือน เม.ย. ถึง มิ.ย. เติบโตเกินคาดในอัตรา 6% ต่อปี อานิสงส์ “เงินเยน” อ่อนค่าหนัก ทำยอดส่งออก Q2/66 โต 3.2% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ส่งออกรถยนต์" ไปต่างประเทศ
สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times) รายงานวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น ในช่วงเดือน เม.ย. ถึง มิ.ย. เติบโตในอัตรา 6% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ประมาณการไว้ที่ 2.9% และเป็นการขยายตัวแบบ 3 ไตรมาสติดต่อกัน ส่วนใหญ่เป็นเพราะยอดส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์ของไฟแนนเชียลไทมส์ กล่าวว่า ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ เป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออกของประเทศ แม้จะส่งผลกระทบต่อ "การบริโภคภายในประเทศ" เพราะทำให้ราคานำเข้าสูงขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ดี แม้จีดีพีของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่เพียง 0.8%
ทว่าบรรดานักเศรษฐศาสตร์ยังออกมาเตือนว่า ต้องจับตาการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศหลังการระบาดโควิด-19 เพราะยังอ่อนแออยู่
โดยการส่งออกในไตรมาส 2 ขยายตัว 3.2% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศได้รับอานิสงส์จากผลกระทบที่ค่อยๆ ลดลงของ "การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน"
ส่วนภาคการท่องเที่ยวขาเข้า ซึ่งมีส่วนสนับสนุนจีดีพีและรวมอยู่ในตัวเลขการส่งออกสุทธิ กลับไปสู่ระดับมากกว่า 2ใน 3 ของระดับก่อนเกิดโควิด-19
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสัปดาห์ที่แล้วจีนได้ยุติการจำกัดกรุ๊ปทัวร์ไปยังหลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเติบโตของ การบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของจีดีพี กลับปรับตัวลดลง 0.5% แบบรายไตรมาส