Morgan Stanley หั่นคาดการณ์ GDP จีน ปี 66-67 ลง ต่ำกว่า 5% จากปัญหารอบทิศ
มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2566 และ 2567 ลง เหลือ 4.7% และ 4.2% ตามลำดับ จากปัญหาในภาคอสังหาฯ และหนี้รัฐบาลท้องถิ่น
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (17 ส.ค.) ว่า มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2566 และ 2567 ลง โดยอ้างถึงการลงทุนที่อ่อนแอลงเนื่องจากการตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์และปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น
โดย Morgan Stanley ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จีนจะขยายตัว 4.7% ในปีนี้ ลดลงจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 5% นอกจากนี้ยังลดการคาดการณ์ในปีหน้าเป็น 4.2% จากเดิม 4.5%
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า การปรับลดประมาณการครั้งนี้เกิดจาก “การชะลอตัวของรายจ่ายฝ่ายทุนรุนแรง (Steeper Capex Slowdown) ท่ามกลางการลดหนี้สิน (Deleveraging) ในภาคอสังหาริมทรัพย์” และภาระหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริโภค โดยประมาณ 1 ใน 10 ของการปรับลดจีดีพีเป็นผลจากการส่งออกที่อ่อนแอ”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการปรับลดอันดับประมาณการของธนาคารหลายแห่งในสัปดาห์นี้ รวมถึง JPMorgan Chase & Co. ซึ่งเป็นไปตามข้อมูลเศรษฐกิจในเดือน ก.ค. ที่แย่กว่าคาด แม้ปักกิ่งตั้งเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 5% สำหรับปีนี้
ทั้งนี้ เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงในระบบเศรษฐกิจ Morgan Stanley ก็ได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค (Consumer Inflation) ในปี 2566 ลงเหลือ 0.4% จาก 0.9% และลดการคาดการณ์ในปี 2567 ลงเหลือ 0.9% จาก 1.6%
ขณะที่ การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อฝั่งผลิต (Producer-price Inflation) ในปีนี้ลดลงเหลือ -3.3% จาก -3% ในขณะที่ปีหน้าลดลงเหลือ -1.5% จาก -0.3%