'ตลาดบอนด์โลก' ส่อผันผวนหนัก! หลังนักลงทุนญี่ปุ่นขายหุ้นกู้บริษัทสหรัฐอื้อ
"นักลงทุนญี่ปุ่น" เทขายหุ้นกู้บริษัทเอกชนสหรัฐหนักซึ่งในเดือน ส.ค. ขายออก 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท) ด้าน "ตลาดบอนด์โลก" ส่อผันผวนเพราะนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นผู้ซื้อหุ้นกู้สหรัฐอันดับต้นๆ ของโลก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (12 พ.ย.) ว่า "ตลาดบอนด์โลก"ส่อผันผวนหนักหลังนักลงทุนญี่ปุ่นขายหุ้นกู้บริษัทเอกชนสหรัฐสุทธิเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. ที่ 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท)
โดยข้อมูลล่าสุดของ กระทรวงการคลังสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า ต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงสูงสุดในรอบกว่า 20 ปีทําให้หลักทรัพย์ดังกล่าวน่าสนใจน้อยลง
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้จัดการสินเชื่อของญี่ปุ่นจับตาตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิดเนื่องจากข้อมูลดังกล่าวจะแสดงให้เห็นว่า “แรงขายหุ้นกู้เอกชน” ในประเทศนั้นเป็นเพียงแค่สถานการณ์ระยะสั้นหรือเป็นแนวโน้มในระยะยาว
โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยุติการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายขั้นสุด ซึ่งอาจกระตุ้นให้นักลงทุนย้ายเงินออกเพื่อใช้ประโยชน์จากผลตอบแทนที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของนักลงทุนญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ มีศักยภาพในการลดสภาพคล่องของตลาดบอนด์โลกและสร้างความผันผวนต่อตลาดสินทรัพย์ดังกล่าวได้
อ้างอิง