เทศกาลคนโสดคึกคัก งบบริษัทกลับมาโตดี ส่งสัญญาณบริโภคจีนฟื้น

หลังจากผ่านช่วง Golden Week ในเดือนตุลาคม 2566 ภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวของจีน ก็ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงเดือนพฤศจิกายน จีนมีการจัด เทศกาลวันคนโสด 11 เดือน 11 หรือ 11.11 ซึ่งเป็นเทศกาล Shopping Online ที่สำคัญเทศกาลหนึ่งของจีน โดยในอดีตงานเทศกาลดังกล่าว จะมีเพียงบริษัท E-commerce จีนที่จะออกโปรโมชันลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เพียงวันเดียว แต่นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา บริษัทจีนที่ทำธุรกิจออนไลน์อื่นๆ ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในเทศกาลดังกล่าวและเริ่มมีการขยายระยะเวลาของเทศกาลในการลดราคาจากเดิมที่มีเพียงแค่วันเดียวเปลี่ยนเป็นเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน หรือบางบริษัทมีการเริ่มเทศกาลตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม 

Singles’ Day shopping festival timeline across platforms

ที่มา : Company data, Data compiled by Goldman Sachs Global Investment Research

ในปีนี้ตลาดคาดว่า ตัวเลขยอด ขายออนไลน์ รวมสะสมจะเพิ่มขึ้น 2.08% YoY แตะระดับ 1.14 ล้านล้านหยวน โดยรับอานิสงส์จากการขยายระยะเวลาเทศกาลลดราคาของบริษัทต่างๆ รวมถึงการเข้ามาของ Short Video ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับหลายบริษัท อาทิ PDD, Douyin (TikToK) และ Kuaishou เป็นต้น

ยอดขายออนไลน์รวมสะสม (GMV) ในช่วงเทศกาล 11.11

ที่มา : Syntun, Bain analysis, Goldman Sachs Global Investment Research

เทศกาลนี้ถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการประกาศยอด ขายออนไลน์ รวมสะสมอย่างเป็นทางการ แต่จากข้อมูลที่บริษัทได้มีการปล่อยออกมาบางส่วนก็ทำให้ตลาดคาดว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนยังฟื้นตัว โดยตัวอย่างข้อมูลที่ออกมามีดังนี้

• Taobao และ Tmall ของ Alibaba ระบุว่า กลยุทธ์การลดราคา 15% ช่วง 24 ตุลาคม ถึง 11 พฤศจิกายน 2566 ทำให้มียอดคำสั่งซื้อถึง 210 ล้านครั้ง และทำให้ตัวเลขยอดขายออนไลน์สะสมรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
• JD.com ระบุว่า บริษัทฯ มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีมากกว่า 60 แบรนด์ ที่มียอดขายเกิน 1 พันล้านหยวน รวมเกือบ 20,000 แบรนด์ ที่รายงานปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 3 เท่า
• บริษัทขนส่งของจีน ระบุว่า มีการจัดส่งพัสดุ 639 ล้านชิ้น ทั่วประเทศเฉพาะในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เพิ่มขึ้น 16% YoY และยอดจัดส่งพัสดุรวมตั้งแต่ต้น 1-11 พฤศจิกายน 2566 เพิ่มขึ้น 23% YoY

นอกจากนี้ เดือนพฤศจิกายน 2566 ยังเป็นเดือนที่บริษัท China Internet หลายแห่งประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ออกมา โดยล่าสุดมีบริษัท China Internet รายใหญ่ที่ได้ประกาศออกมาแล้ว 4 บริษัท ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ E-Commerce อย่าง Alibaba, JD.com และกลุ่มธุรกิจ Gaming อย่าง Tencent และ NetEase โดยรายละเอียดของผลประกอบการแต่ละบริษัทมีดังนี้

Alibaba ผลการดำเนินงานดีกว่าคาด เติบโตทุกธุรกิจ แต่หุ้นปรับลงหลังยกเลิก IPO Cloud

Alibaba รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2023 มีรายได้เพิ่มขึ้น 9% YoY อยู่ที่ 224.79 พันล้านหยวน สูงกว่าที่คาดที่ 224.09 พันล้านหยวน และกำไรพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรที่ 27.7 พันล้านหยวน โดยผลประกอบการของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น นำโดยรายได้ ค้าปลีกออนไลน์ ภายในประเทศที่ยังเติบโตแม้ว่า เศรษฐกิจจีน จะเติบโตชะลอตัวลง เนื่องจากบริษัทฯ มีการนำ AI เข้ามาใช้ในการคัดเลือกสินค้าเพื่อนำเสนอประเภทสินค้าและราคาที่หลากหลายให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้รายได้ธุรกิจ Local Service (Ele.me และ Amap) ก็เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ยังได้รับความนิยมสูง 

ด้านรายได้ธุรกิจ Cloud เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยบริษัทฯ ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาระบบและประเมินมูลค่าโครงการที่ทำเพื่อลดโครงการที่ได้กำไรน้อยและเพิ่มคุณภาพของรายได้ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการประกาศยกเลิกแผนการแยกธุรกิจ Cloud ออกจากบริษัทฯ อย่างเต็มตัว โดยให้เหตุผลว่าเพราะสหรัฐมีการออกมาตรการจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน ซึ่งทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบในการจัดหาชิป 

รวมทั้งบริษัทฯ ยังมีการพักแผนการ IPO Freshippo ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเช่นกัน อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ยังคงดำเนินการเตรียม IPO Cainiao บริษัท Logistics ในฮ่องกง สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตบริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปที่การทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงเน้นการลงทุนในธุรกิจ AI 

JD.com ผลประกอบการดีกว่าคาด ปรับกลยุทธ์ขายสินค้าทั่วไปมากขึ้น

JD.com รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2023 มีรายได้เพิ่มขึ้น 2% YoY อยู่ที่ 247.7 พันล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 246.6 พันล้านหยวน และกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น +40% YoY อยู่ที่ 5.0 หยวน โดยรายได้ธุรกิจ Retail ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ (85% ของรายได้ทั้งหมด) เติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้วอยู่ที่ 212.1 พันล้านหยวน โดยมีผลกระทบมาจากการเติบโตของ เศรษฐกิจจีน ที่ชะลอลงมากกว่าคาด ซึ่งกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการปรับใช้กลยุทธ์ด้วยการเสนอสินค้าและระดับราคาที่มีความหลากหลายมากขึ้น และมุ่งเน้นไปที่สินค้าทั่วไปมากขึ้น แทนที่สินค้าราคาแพง โดยผู้บริหารกล่าวว่าการปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ทำไปเพื่อให้สินค้าที่เสนอสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดที่เสียไปคืน โดยในช่วง เทศกาล 11.11 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ระบุว่ายอดขายเพิ่มสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจะสะท้อนในผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 

Tencent รายได้ธุรกิจเกมและโฆษณายังเติบโตแข็งแกร่ง และกำไรดีกว่าคาด

Tencent รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2023 โดยมีรายได้เติบโต 10% YoY อยู่ที่ 154.6 พันล้านหยวน และมีกำไรต่อหุ้น (Non-IFRS) เติบโต 41% YoY อยู่ที่ 4.66 หยวน มากกว่าที่ตลาดคาด โดยรายได้จากธุรกิจเกมยังคงเติบโตต่อเนื่อง นำโดยรายได้เกมในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 14% YoY โดยได้รับความนิยมจากเกมที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วอย่างเกม Nikke และ Tower of Fantasy ด้านรายได้เกมในประเทศเพิ่มขึ้น 5% YoY โดยได้รับอานิสงส์จากการที่ภาครัฐเริ่มกลับมาอนุมัติเกมใหม่ 

ด้านรายได้จากธุรกิจ โฆษณาออนไลน์ เพิ่มขึ้น 20% YoY รับปัจจัยหนุนจำนวนบัญชีผู้ใช้งาน Wechat’s video ที่เพิ่มขึ้นมากถึง 50% จากที่มีจำนวนคนดูทั้งวิดีโอสั้นและยาวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งได้ประโยชน์มาจากซีรีส์จีน, รายการวาไรตี้ รวมถึงรายการกีฬาเป็นที่สนใจมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Fintech มีรายได้เพิ่มขึ้น 16% YoY โดยได้แรงหนุนมาจากการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมการชำระเงิน

ล่าสุดบริษัทฯ ได้มีการวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนใน Model AI เพื่อพัฒนา Generative AI ของบริษัทอย่าง Hunyuan ขึ้นมา รวมทั้งผู้บริหารก็ออกมาให้สัญญาณว่าบริษัทฯ อาจมีการซื้อหุ้นคืน

NetEase กำไรเพิ่มขึ้นดีกว่าคาด หนุนจากความนิยมของเกมเก่าและเกมใหม่

NetEase ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 รายได้เพิ่มขึ้น 11.6% YoY อยู่ที่ 27.27 พันล้านหยวน ใกล้เคียงกับที่คาดที่ 27.25 พันล้านหยวน ด้านกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 18.6% YoY อยู่ที่ 12.06 หยวน โดยรายได้ธุรกิจเกมซึ่งเป็นรายได้หลักเพิ่มขึ้น 16.5% YoY รับอานิสงส์จากความนิยมของเกมมือถือใหม่ทั้งเกมเก่าและเกมใหม่ โดยเกมใหม่ที่ได้รับความนิยมได้แก่ เกม Justice ที่มียอดผู้สมัครเล่นมากกว่า 50 ล้านไอดี และเกม Dunk City Dynasty เกมบาสเกตบอลเกมแรกที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมา

รายได้ธุรกิจอื่นๆ อย่าง Youdao ที่เป็นธุรกิจ Search Engine เพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของ Learning Service และ Marketing Services ขณะที่รายได้จากธุรกิจ Cloud Music ลดลงจากการที่บริษัทฯ หันมาเก็บค่าบริการสมาชิก

ผู้บริหารกล่าวว่า หลังจากนี้บริษัทฯ จะใช้จุดเด่นในเรื่องการวิจัยและพัฒนาเกมให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการพัฒนาเกมใหม่ที่มีความหลากหลายออกมาเรื่อยๆ โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดตัวเกมใหม่จำนวนมากในปี 2024 เพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์แนวเกมใหม่จากของบริษัทฯ โดยภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่ม China Internet ออกมาขยายตัวและดีกว่าคาด รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมของภาครัฐ รวมถึงการเข้ามาของคลิปวิดีโอสั้นและ AI ที่เป็นตัวช่วยหนุนให้ผลประกอบการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง 

นอกจากนี้ มองว่าในช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่ม China Internet ได้มีการปรับตัวลง รับปัจจัยลบจากความผิดหวังเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากกว่าคาดและความสัมพันธ์ที่ตึงตัวระหว่างสหรัฐ และจีน ไปพอสมควรแล้ว และด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงระดับ Valuation ที่ลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำ ทำให้มองว่า ณ ระดับราคาดังกล่าวเป็นจุดที่ไม่น่าขาย และเป็นจุดที่น่าเข้าสะสมหุ้นกลุ่ม China Internet โดยเฉพาะผู้ลงทุนใหม่หรือผู้ที่มีสัดส่วน หุ้นจีน น้อย โดยกลุ่มที่คาดว่าจะขยายตัวแข็งแกร่งเป็นพิเศษจะเป็นบริษัทกลุ่ม E-commerce ที่มีความเกี่ยงข้องกับภาคการบริโภคโดยตรง เห็นได้จากตัวเลขการบริโภคที่ออกมาดีต่อเนื่องทั้งในช่วงวันหยุดยาวเดือนตุลาคม 2566 ต่อเนื่องมาถึง เทศกาลคนโสด 11.11 ในเดือนพฤศจิกายน 2566 นั่นเอง

ที่มา : Syntun, Bain analysis, Goldman Sachs Global Investment Research, Bloomberg, company presentation

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และเว็บไซต์ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds