‘แบงก์ชาติญี่ปุ่น’ ลดการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง REIT ลง ส่งสัญญาณนโยบายการเงิน 'ปกติ'
“ธนาคารกลางญี่ปุ่น” (แบงก์ชาติญี่ปุ่น) ซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์” (Real Estate Investment Trusts ) ลดลงจนเป็นศูนย์ ด้านนักวิเคราะห์ประเมินถือเป็นสัญญาณปรับนโยบายการเงินสู่สภาวะปกติ หรือ Policy Normalization
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (22 พ.ย.66) ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หรือ แบงก์ชาติญี่ปุ่น ซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์” (Real Estate Investment Trusts ) ลดลงจนเป็นศูนย์ และปรับสัดส่วนการถือครองกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange-Traded Funds) ประจำปีน้อยมากที่สุดในรอบ 13 ปี ส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายทางการที่เริ่มเข้าสู่นโยบายแบบปกติมากขึ้น (More Conventional Policy)
โดยข้อมูลซึ่งรวบรวมจนถึง ณ วันที่ 21 พ.ย.66 พบว่า BOJ ยังไม่ได้เริ่มลงทุนใน J-REIT เลยในปีนี้ หลังจากซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวทุกปีตั้งแต่ปี 2553 เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในตลาดอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่พบว่าในปีนี้ทางการซื้อ ETF ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงอีกชนิดหนึ่งเพียง 3 ครั้งเท่านั้น เนื่องจากตลาดหุ้นทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี
ด้านฮิโรมิ ยามาโอกะ (Hiromi Yamaoka) อดีตหัวหน้าแผนกตลาดการเงินของ BOJ กล่าว
“ธนาคารกลาง ไม่ต้องการซื้อสินทรัพย์เช่นนั้นอีกต่อไป” พร้อมเสริมว่า “ทางการพยายามทำให้ตลาดการเงินคุ้นเคยกับการขาดการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงบ้าง”
นอกจากนี้ ท่าทีดังกล่าวของผู้กำหนดนโยบายทางการเงินเกิดขึ้นท่ามกลางการเดิมพันที่ร้อนระอุว่า BOJ จะยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และเลิกการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
ท่ามกลางความพยายามของ BOJ ในการปรับนโยบายให้เป็นปกติ (Normalization) หลังจากการทดลองมานานหลายทศวรรษโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างอัตราเงินเฟ้อให้เกิดขึ้นในประเทศ
อ้างอิง Bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์