NYCB แบงก์ยักษ์สหรัฐ ขาดทุนหมื่นล้านบาท ตั้งสำรองกระฉูด เหตุอสังหาฯ เชิงพาณิชย์ทำพิษ !
หุ้นธนาคารสหรัฐร่วงหนักหลังได้รับผลกระทบจากการปล่อยกู้ให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ด้านธนาคาร NYCB ร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ 38% หลังจากลดเงินปันผลเหลือ 5 เซนต์ต่อหุ้นจาก 17 เซนต์ และตั้งสำรองจากการปล่อยกู้ให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ 552 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20,424 ล้านบาท)
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (2 ก.พ.67) ว่า ที่ผ่านมาไม่เพียงตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนเท่านั้นที่อยู่ในความปั่นป่วนแต่ “อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์” สหรัฐก็เผชิญความท้าทายเช่นเดียวกัน
โดยธนาคารนิวยอร์ก คอมมิวนิตี้ แบนคอร์ป (New York Community Bancorp) หรือ NYCB และอาโอโซระ แบงก์ (Aozora Bank Ltd.) ของญี่ปุ่นออกมาเตือนว่า
ธนาคารของสหรัฐบางแห่งพึ่งจะรู้สึกถึงความกดดันของความปั่นป่วนครั้งนี้เท่านั้น
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หุ้นธนาคาร NYCB ร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ 38% จากการลดเงินปันผล และเพิ่มการตั้งสำรอง (Stockpile its Reserves) ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงสูงสุดในรอบ 23 ปี
ขณะที่หุ้นธนาคาร Aozora ปรับตัวลดลง 20% หลังจากออกมาเตือนนักลงทุนว่าอาจสูญเสียสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ส่วนธนาคาร ดอยช์ แบงก์ เอจี (Deutsche Bank AG) จากแฟรงก์เฟิร์ตตั้งสำรองมากกว่าสี่เท่าของการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
ด้านสำนักข่าวบาร์รอนส์ (Barron’s) รายงานเมื่อวานนี้ว่า NYCB สร้างความตื่นตระหนกให้กับวอลล์สตรีท (Wall Street) เมื่อวันพุธเมื่อรายงานผลขาดทุน 260 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9,620 ล้านบาท) หรือ 36 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากได้เพิ่มเงินสํารองผลขาดทุนจากเงินกู้ 552 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20,424 ล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังลดเงินปันผลรายไตรมาสลงเหลือ 5 เซนต์ต่อหุ้นจาก 17 เซนต์ จนทำให้หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างที่กล่าวไป
บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เผยว่า ความกังวลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับความยากลําบากในการคาดการณ์ว่าผู้ให้กู้รายไหนจะประสบปัญหาบ้าง
โดยความปั่นป่วนในภาคธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) ที่ทำให้วัฒนธรรมการทำงานที่อาคารสำนักงานลดน้อยลงจนกระทบผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ จนทำให้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวรีไฟแนนซ์ได้ยากขึ้นด้วย
แบร์รี่ สเติร์นลิชต์ (Barry Sternlicht) นักลงทุนและมหาเศรษฐีเตือนในสัปดาห์นี้ว่าตลาดสํานักงานกําลังเผชิญกับความสูญเสียมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
โดยเหตุการณ์ทั้งหมดสำหรับผู้ให้กู้ นั้นหมายถึงโอกาสที่จะผิดนัดชําระหนี้มากขึ้น เนื่องจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์หลายรายประสบปัญหาในการชําระคืนเงินกู้หรือบางรายก็ย้ายของออกจากอาคารสำนักงานโดยไม่จ่ายเงิน
"นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ตลาดต้องคํานึงถึง" ฮาโรลด์ บอร์ดวิน (Harold Bordwin) ผู้อำนวยการของ Keen-Summit Capital Partners LLC ในนิวยอร์กซึ่งเชี่ยวชาญในการเจรจาต่อรองอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหากล่าว
"งบดุลของธนาคารไม่ได้คํานึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่ามีอสังหาริมทรัพย์จํานวนมากอยู่ที่นั่นซึ่งจะไม่ชําระหนี้เมื่อครบกําหนด"
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส (Moody’s Investors Service ) กล่าวว่า กําลังทบทวนว่าจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ NYCB ลงหรือไม่หลังจากการประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์