‘เม็กซิโก’ โค่นจีนขึ้นแท่นผู้ส่งออกสินค้าเบอร์หนึ่งไปสหรัฐตลอดปี 2566
“เม็กซิโก” แซงหน้าจีนกลายเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ให้กับสหรัฐตลอดปี 2566 ที่ 4.756 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17.597 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดการนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากจีนของสหรัฐอยู่ที่ 4.272 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15.806 ล้านล้านบาท) หรือลดลงถึง 20%
สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานวันนี้ (8 ก.พ.67) ว่า เม็กซิโกแซงหน้าจีนกลายเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ให้กับสหรัฐตลอดปี 2566
โดยข้อมูลจากสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐ (The Bureau of Economic Analysis) เผยว่า ยอดการนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากจีนของสหรัฐอยู่ที่ 4.272 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15.806 ล้านล้านบาท) หรือลดลงถึง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดของเม็กซิโกอยู่ที่ 4.756 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17.597 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีที่เม็กซิโกกลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าอันดับหนึ่งไปสหรัฐ
บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย ระบุว่า บริษัทอเมริกันพยายามกระจายห่วงโซ่อุปทานเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และจีนไม่มั่นคง
ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของโจ ไบเดน (Joe Biden) สนับสนุนแนวทางดังกล่าว โดยเรียกมันว่า "Friendshoring" เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นท่าทีที่ต้องการสร้างห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน และลดการพึ่งพาคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์
ที่สำคัญลักษณะการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐ และจีนเน้นย้ำถึงความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการค้าเทคโนโลยี
ขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสําหรับการกระจายความเสี่ยงเนื่องจากภูมิภาคที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพอยู่ใกล้กับจีนซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สําคัญ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเมื่อเดือนก.ย.ว่า เวียดนามเป็นพันธมิตรที่มีแนวโน้มในการสร้างห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ สิงคโปร์ และมาเลเซียได้รับความสนใจจากบริษัทอเมริกันเช่นกัน
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
