'ตลาดอินเดีย' ทางเลือกแทนจีน ดึงรายย่อยเกาหลีใต้ แห่ซื้อพันธบัตรรัฐบาล

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานถึงความน่าสนใจของตลาดตราสารหนี้ของอินเดียโดดเด่นจนสามารถดึงดูดนักลงทุนรายย่อยของเกาหลีใต้ รวมทั้งทำให้กองทุนพันธบัตร ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีการเคลื่อนไหวมานานนับทศวรรษก็ได้รับความสนใจอย่างมาก

โดยกองทุนของบริษัท Mirae Asset Management Co. ที่ลงทุนในตราสารหนี้ของอินเดียเติบโตขึ้น 33% อยู่ที่ประมาณ 3.2 หมื่นล้านวอน หรือราวๆ 810 ล้านบาท จาก 2.4 หมื่นล้านวอน เมื่อปลายปีที่แล้ว 

คิมจินฮา หัวหน้าแผนกตราสารหนี้ระดับโลกจากหนึ่งในผู้จัดการ การเงินของเกาหลีใต้ ระบุว่าทิศทางนี้เกิดขึ้นหลังจากเงินไหลเข้าสุทธิครั้งแรกในรอบประมาณ 3 ปี โดยคิมเผยถึงการพูดคุยระหว่างบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารทั้ง 8 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนรายย่อยในท้องถิ่นในปีนี้ ซึ่งจากการสอบถามเกี่ยวกับตลาดตราสารหนี้ของอินเดีย พบว่าความสนใจในปีนี้เป็นหนังคนละม้วนกับปี 2566 ที่แทบไม่มีใครสนใจเลย

“ประชาชน และนักลงทุนให้ความสนใจอินเดียมากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีนักลงทุนสถาบันเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ที่ให้ความสนใจ” 

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอินเดีย และสหรัฐ ตกเป็นเป้าสายตาของนักลงทุน หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และโดดเด่น  โดยมีการพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางตลาดหุ้นจีนที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว
 
แม้แต่นักลงทุนรายย่อยของญี่ปุ่นเอง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมักเทใจให้การลงทุนในสหรัฐมากกว่า  ก็ยังแสดงความสนใจในประเทศในแถบเอเชียใต้ ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลักๆ

“การลงทุนในสหรัฐ กลายเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบันนี้ แต่นอกเหนือจากสหรัฐ แล้ว อินเดียกำลังได้รับความสนใจในฐานะการลงทุนทางเลือกแทนจีน ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่กำลังมองหาผลตอบแทนที่ดีกว่า ” โช แจ ซุง ผู้จัดการของธนาคารชินฮัน ในกรุงโซล กล่าว 

ตลาดอินเดียได้รับความสนใจ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่จีนต้องต่อสู้กับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ตอนนี้กำลังย่ำแย่ ขณะเดียวกัน JP Morgan ได้ประกาศเพิ่มอินเดียในดัชนีตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ ผลักดันให้เงินไหลเข้าพันธบัตรรัฐบาลอินเดียสูงสุดในรอบ 6 ปี

เป็นการเคลื่อนไหวที่อาจดึงดูดฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามายังอินเดีย โดยคาดว่าอินเดียจะมีน้ำหนักสูงถึง 10% ของดัชนี ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุนที่อิงตามดัชนี เข้าตลาดตราสารหนี้อินเดียประมาณ 3-4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่ามูลค่าพันธบัตรรัฐบาลอินเดียที่ชาวต่างชาติถืออยู่ในปัจจุบัน 

ค่าเงินรูปีมีเสถียรภาพ

การลงทุนในอินเดียได้รับความสนใจ ส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินที่มีเสถียรภาพ ตามข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าเงินรูปีเป็นสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเอเชียในปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่มีความผันผวนต่ำที่สุดในบรรดาสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่  ขณะที่เงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลง 3.2% ในช่วงเวลาเดียวกัน

คิม เป็นผู้บริหารกองทุนอินเดียมาตั้งแต่ปี 2556 ชื่นชอบการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอินเดียที่ออกโดยองค์กรข้ามชาติ มีสัดส่วนอยู่ที่ 40% ของกองทุน ส่วนที่เหลือจัดสรรให้กับพันธบัตรรัฐที่ออกโดยบริษัทของรัฐ และ คลัง

อ้างอิง  Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์