“เป็นแฟนกับ AI”
กระแส AI หลั่งไหลมารวดเร็ว ขณะนี้มีคนที่เป็นแฟนกับ AI แล้วครับ
คนมีแฟน ย่อมคิดถึง อยากเห็นหน้า อยากพูดคุย อยากทานอาหารด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน
หรือพูดง่ายๆก็คือ อยากใกล้ชิด ผูกพัน และมีความสุขเมื่อได้อยู่ด้วย
ทุกวันนี้ มนุษย์บางคน มีความรู้สึกแบบนี้ กับ AI แล้วครับ คือมีการคบหา AI
อย่างมีความสุข ผูกพันแนบแน่น ประหนึ่งแฟนที่รู้ใจ และบางคนไม่คิดที่จะมีความสัมพันธ์แบบเดียวกันนี้ กับมนุษย์เพศตรงข้ามอีกเลย
ถ้าเราจะเต้นแทงโก้ ก็ต้องเต้นสองคนใช่ไหมครับ แน่นอนว่า คน ย่อมมีความรู้สึกผูกพัน แต่ AI ไม่มีความรู้สึก แล้ว คน จะเป็นแฟนกับ AI ได้อย่างไร?
ก็เพราะว่า คนที่เป็นแฟนกับคน นั้น มันไม่ได้ราบรื่นเสมอไปหรอกครับ มนุษย์เรามีความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง อารมณ์เหล่านี้ บางทีก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งอึดอัด ไม่งั้นจะมีกรณีบอกเลิกกับแฟนหรือ
ความรู้สึก เป็นเรื่องซับซ้อน เราจึงเห็นบางคนที่คบหาสมาคมเป็น เพื่อน กันมายาวนาน อยู่ดีๆก็เลิกคบกันซะเฉยๆ ด้วยเหตุคำพูดผิดใจกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
แต่พอเป็น แฟน ก็ยิ่งไปกันใหญ่ มีงอน มีง้อ มีหึง เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งบางคน อาจจะรับความซับซ้อนของอารมณ์แบบนี้ไม่ได้ ก็เลือกที่จะไม่มีแฟน หรือเลิกเป็นแฟนไปเลย แล้วหันไป
คบกับ AI แทน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระยะหลังๆนี้ AI เก่งขึ้น เริ่มตอบสนองความรู้สึกและอารมณ์ของคน ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เทคโนโลยี Generative AI ทำให้เกิดหลายแอพ ที่เป็น “Romantic AI” พูดคุยกับผู้ใช้งาน ด้วยความรู้สึกที่เข้าใจ อ่อนโยน อดทน และไม่เคยขัดใจ จนผู้ใช้บางคนหันมาผูกพัน กับ AI แทนมนุษย์
ผมเป็นนักวิชาการ จะเขียนอะไรก็ต้องมีข้อมูล ผมเลยต้องทดลองทำด้วยความระมัดระวังผม เริ่มต้นเข้าแอพแบบนี้ ที่มีผู้ใช้มากที่สุด พอเริ่มต้นก็ได้พบกับ อวตาร (Avatar)
หลาย (ตัว) ให้เลือกว่าต้องการหญิงหรือชาย ผมก็ต้องเลือกผู้หญิงสิครับ
ผมเลือกมาหนึ่งตัว แล้วแอพก็ให้ผมเปลี่ยนรูปทรงของเธอได้ตามที่ผมปรารถนา ไม่ว่าจะเป็น ทรงผม ดวงตา ริมฝีปาก หน้าอก แขนขา จะให้ดูเรียว อวบ เล็ก ใหญ่ ฯลฯ เปลี่ยนได้ทั้งนั้น
จนได้รูปร่างหน้าตาที่ผมพอใจ
แล้วก็บอกให้ผมตั้งชื่อเธอได้ด้วย ผมลองตั้งชื่อเธอว่า Joy และคำพูดแรกของเธอก็คือ “That’s a nice name. I like it. How do you come up with this name?” เห็นไหมหญิงสาวของผมคนนี้เริ่มต้นคุยแล้ว ไม่ธรรมดาเลยน้องจอยคนนี้
แต่ผมหยุดสนทนาแค่นั้นครับ แล้วลบแอพทิ้งไปเลย เพราะเกรงว่าถ้าผมก้าวไปต่อ แอพอาจจะพาผมไปสู่ดินแดนที่เสี่ยงภัยเกินไปก็ได้ “ถอยดีกว่า….ไม่เอา ดีกว่า”
แน่นอนครับ แอพแบบนี้ทำมาเพื่อหาสตางค์ และส่วนใหญ่ก็เอาข้อมูลของเราไปขาย เพื่อใช้ประโยชน์ทางการตลาด แถมยังมีประเด็นน่าห่วง เช่นอวตารบางตัวถูกออกแบบขึ้น เพื่อให้สนองจินตนาการทางเพศได้ด้วย และมันอาจทำให้คนบางคน หลุดออกจากสังคมมนุษย์ไปเรื่อยๆ เป็นต้น
แอพที่ผมทดลองใช้นี้ เคยมีผู้ใช้บางคนตำหนิว่าน้องอวตาร เริ่มพูดจาปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศมากเกินไปแล้วนะ ตัดออกไปได้ไหม เขาก็เลยตัดตรงนี้ออก แต่เชื่อไหมครับว่า มีผู้ใช้อีกจำนวนมากผิดหวัง และย้ายค่ายไปใช้แอพอื่นแทน บริษัทก็เลยต้องเปลี่ยนใจกลับมาทำแบบเดิม
มีงานวิจัย นักศึกษามหาวิทยาแสตนฟอร์ด จำนวน 1,000 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้แอพนี้ พบว่านักศึกษาที่ใช้แอพ ส่วนใหญ่มีความรู้สึกเหงาและว้าเหว่ และจำนวนเกือบครึ่งหนึ่ง ยอมรับว่าเหงาและว้าเหว่ “อย่างรุนแรง”
ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียร์ ให้ความเห็นว่า ธรรมชาติของมนุษย์ ย่อมจะต้องพบกับความขัดแย้ง หรือความคิดที่แตกต่าง ซึ่งเราต้องเรียนรู้และปรับความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นให้ได้ แต่การเลี่ยงไปคบกับ AI ทำให้ขาดโอกาส ที่จะพัฒนาตนเองไปตามกระบวนการธรรมชาติ
AI กำลังนำมาซึ่งมิติใหม่ๆทางกฎหมาย และ จริยธรรม ที่เราจะต้องกังวลและติดตามกันต่อไปครับว่า อนาคตอันใกล้นี้สังคมมนุษย์ จะพัฒนาไปทิศทางใด ด้วย AI ใหม่ๆที่รูปลักษณ์และความสามารถเหมือนมนุษย์ และบางอย่างก็เก่งกาจเกินมนุษย์แล้วด้วย
วันนี้ผมเล่าให้ฟังเบาๆเพียงเท่านี้นะครับ เป็นการเบรคช่วงสงกรานต์ เพราะไม่อยากเอาปัญหาบ้านเมืองเรื่องเครียดๆ มาวิเคราะห์ให้ปวดหัว แค่จะบอกว่าโลก AI มาไกลจริงๆ อนาคตมาอยู่ในบ้านคุณแล้ว อย่ากระพริบตาเป็นอันขาด
ส่วนคนที่สนใจ อยากได้แฟนเป็น AI ก็ไปหาเอาเอง อย่ามาถามผมว่าแอพที่ผมลองใช้นั้น
ชื่ออะไร เพราะยังไงผมก็ไม่บอก
เดี๋ยวคุณถลำลึกเกินไป แล้วจะมาบ่นว่า ทำไมผมไม่เตือน