Vinfast ทุ่มเงินกว่า 3.7 หมื่นล้าน ดันรถ อีวีเวียดนาม บุกตลาดโลก

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (25 เม.ย.) ว่า ฝ่าม เญิ้ต เวือง ผู้ก่อตั้ง วินกรุ๊ป เจเอสซี (Vingroup JSC) ของเวียดนาม ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนธุรกิจวิสฟาสต์ ออโต้ (VinFast Auto Ltd.) อย่างแข็งแกร่งต่อไป โดยเตรียมนำเงินส่วนตัวอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์ (3.7 หมื่นล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการขยายตัวแบรนด์รถยนต์อีวีไปทั่วโลก

เวืองกล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของวินกรุ๊ปที่กรุงฮานอยว่า เขามีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ "วินฟาสต์" กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก

“เราจะทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดให้วินฟาสต์เราปล่อยมือจากวิสฟาสต์ไม่ได้เพราะมันคืออนาคตของวินกรุ๊ป”

โดยเขาคาดการณ์ว่าวินฟาสต์จะอยู่ในจุดคุ้มทุนหรือมี กำไรขั้นต้นเป็นบวกในปี 2025 แม้เวืองไม่ได้ระบุกรอบเวลาสำหรับการอัดฉีดเงินครั้งล่าสุดของเขา

ขณะที่เอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า ระหว่างปี 2017 ถึง 31 ธ.ค. 2023 เวือง วินกรุ๊ป และบริษัทในเครืออัดฉีดเงินกว่า 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.218 แสนล้านบาท) ให้วินฟาสต์

ทั้งนี้ วินกรุ๊ปวางแผนที่จะนำหน่วยธุรกิจรีสอร์ตและโรงแรมวินเพิร์ล (Vinpearl) เข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในสิ้นปีนี้ โดยเวืองกล่าวว่าเขากำลังพิจารณาการจดทะเบียนบริษัทในต่างประเทศของบริษัทในเครือธุรกิจแท็กซี่ ซึ่งคือบริษัท จีเอส กรีน แอนด์ สมาร์ต โมบิลิตี จอยต์ สต๊อก (GS Green and Smart Mobility Joint Stock Co) โดยไม่ได้กำหนดกรอบเวลา

อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า เป้าหมายของบริษัทในการขายรถยนต์ในตลาดทั่วโลกมากถึง 50 แห่งภายในปลายปีนี้อยู่ในช่วงเผชิญกับแรงต้าน เนื่องจากความสนใจของผู้บริโภคต่อรถยนต์ไฟฟ้าลดลง ถึงขนาดที่ว่าบริษัท เทสล่า (Tesla Inc.) ลดพนักงานลงมากกว่า 10% ในขณะที่ผู้ผลิตอีวีของจีนเผชิญกับสภาวะสงครามราคาเนื่องจากความต้องการซื้อชะลอตัว
 

วินฟาสต์ รายงานว่ากำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2024 ลดลงเหลือ 618.3 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าตัวเลขจะสูงขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีก็ตาม

ขณะที่บริษัทฯ ส่งมอบรถยนต์จำนวน 9,689 คันในไตรมาสแรก ซึ่งลดลง 28% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยปีที่แล้วบริษัทส่งมอบรถยนต์ไปทั้งหมด 34,855 คัน แม้ยอดขายลดลง บริษัทยังคงยืนยันตามเป้าหมายการส่งมอบรถยนต์ 100,000 คันในปี 2024

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในมลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกาและเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเริ่มต้นแผนสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย รวมทั้งก็มีแผนที่จะสร้างโรงงานอีกแห่งในอินโดนีเซีย

ท้ายที่สุด เมื่อเดือนมี.ค. 2024 บริษัทฯ บรรลุข้อตกลงขายหุ้น 41.5% ในห้างสรรพสินค้าวินคอม รีเทล (Vincom Retail) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ โดยวินกรุ๊ปจะขายหน่วยลงทุนของบริษัทเอสดีไอ เทรดดิ้ง ดีเวลลอปเม้นต์ แอนด์อินเวสเมนต์ (SDI Trading Development and Investment Ltd.) ซึ่งถือหุ้น 99% ในซาโด เทรดดิ้ง คอมเมอร์เชียล เจเอสซี (Sado Trading Commercial JSC) บริษัทที่ถือหุ้นประมาณ 41.5% ในวินคอม รีเทล ทั้งหมดจึงส่งผลให้วินกรุ๊ปยังคงถือหุ้นในวินคอมที่ประมาณ 18.8%
 

อ้างอิง: Bloomberg