‘เจอโรม พาวเวล ’ย้ำเป้าหมายเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 2% ก่อนถึงเริ่มลด ‘ดอกเบี้ย’

‘เจอโรม พาวเวล ’ย้ำเป้าหมายเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 2% ก่อนถึงเริ่มลด ‘ดอกเบี้ย’

สรุปแถลงการณ์ของประธานเฟด ‘เจอโรม พาวเวล’ ล่าสุด ย้ำเป้าหมายเงินเฟ้อลดลงอย่างยั่งยืนสู่ระดับ 2% ก่อน จึงจะเริ่ม ‘ลดดอกเบี้ย’ แม้ทิศทางเงินเฟ้อตอนนี้น่าพอใจ พร้อมตอบคำถามว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หรือไม่?

เจอโรม พาวเวล  (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่จัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกส โดยแสดงความพอใจต่อความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินเฟ้อในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ระบุด้วยว่ายังต้องการเห็นความคืบหน้ามากขึ้น ก่อนที่จะมีความมั่นใจเพียงพอในการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย

"เรามีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเรา โดยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุด และครั้งก่อนหน้าบ่งชี้ว่าเราได้กลับสู่เส้นทางในการทำให้เงินเฟ้อลดลงแล้ว"

 

"แต่เราต้องการมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ก่อนที่เราจะเริ่มต้นกระบวนการในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน" พาวเวล กล่าว

พาวเวล ยังระบุว่า "เราตระหนักดีว่า หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป เราก็อาจจะทำลายผลงานที่ดีที่เราได้ทำมา แต่ถ้าเราปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป สิ่งนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัว และการขยายตัวของเศรษฐกิจ"

 

สำหรับคำถามที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หรือไม่นั้น

พาวเวลตอบว่า "ผมจะไม่กล่าวถึงกำหนดวันที่เฉพาะเจาะจงที่นี่ในวันนี้"

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. แม้ว่ารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเฟดบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้

พาวเวล ชี้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดในเดือนเม.ย.และพ.ค.บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังลดลง

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 221,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.14 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.96 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 7.92 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย.

อัตราการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% ในเดือนพ.ค. ตัวเลขการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.8 ล้านตำแหน่ง ส่วนอัตราการจ้างงานอยู่ที่ระดับ 3.6% 

ขณะที่ตัวเลขการปลดออกจากงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.65 ล้านตำแหน่ง ส่วนจำนวนคนลาออกจากงานโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.51 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราคนลาออกจากงานโดยสมัครใจอยู่ที่ระดับ 2.2%

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟด ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการ การธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 9 ก.ค.67 ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการ การเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 ก.ค.67 ทำให้ตลาดจับตาถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวล ซึ่งจะมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30-31 ก.ค.67

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์