ดีลอยท์ ประเทศไทย ตั้ง 'เมธินี จงสฤษดิ์หวัง' ขึ้นแท่น MD คนใหม่ต่อจาก 'สุภศักดิ์ กฤษณามระ'

ดร.เมธินี เดิมดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจงานที่ปรึกษา (consulting business) ประจำประเทศไทยและพม่า เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ของดีลอยท์ ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา 

ดีลอยท์ ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของ ดีลอยท์ เซาท์อีทส์เอเชีย ปัจจุบันมีพนักงานที่ให้บริการด้านวิชาชีพกว่า 1,500 คน และผู้บริหารกว่า 50 คน
 

“ดีลอยท์เป็นบริษัทที่ปรึกษาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้เรามีศักยภาพสามารถที่จะ ‘make an impact that matters’ ในการสร้างผลกระทบที่สำคัญและมีความหมายให้กับลูกค้า พนักงาน และชุมชน ประกอบกับบทบาทความรับผิดชอบใหม่และทีมงานที่แข็งแกร่ง ดิฉันมั่นใจว่า ดีลอยท์ ประเทศไทย จะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศร่วมกับความเข้าใจสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ในไทย ตั้งแต่ด้านบัญชี ภาษี การเงิน การควบรวมกิจการ กลยุทธ์องค์กร โครงสร้างและการเปลี่ยนแปลงองค์กร ไปจนถึงสร้างรูปแบบการดำเนินธุรกิจและพัฒนาระบบซึ่งรวมไปถึง cloud และ AI แบบเฉพาะทางสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อส่งมอบบริการที่ครบวงจรและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งภาคเอกชนและภาครัฐให้เหมาะสมและทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ส่งผลต่อเนื่องให้เศรฐกิจไทยพัฒนาได้ยั่งยืนอีกด้วย” ดร. เมธินี กล่าว

จากนี้ นายสุภศกดิ์ กฤษณามระ จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธาน (non-Executive Chair) ของ ดีลอยท์ ประเทศไทย หลังจากดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการของ ดีลอยท์ ประเทศไทย มาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 22 ปี โดยเริ่มงานกับดีลอยท์ในปี 2532 รวมระยะเวลาทำงานมากกว่า 35 ปี

ดีลอยท์ ประเทศไทย ให้บริการลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนมากว่า 85 ปี ภายใต้การบริหารของนายสุภศักดิ์ บริษัทได้เติบโตขึ้นถึง 6 เท่า และเปลี่ยนจากบริษัทที่ให้บริการด้านการสอบบัญชีเป็นหลัก ไปสู่หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำในไทย

ทั้งนี้ ก่อนร่วมงานกับดีลอยท์ ดร.เมธินีเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของส่วนงานด้านกลยุทธ์การลงทุนของธนาคารชั้นนำในประเทศไทยหลายแห่ง โดยมุ่งเน้นธุรกิจบริการทางการเงินและ ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ได้รัการยอมรับในวงกว้างจากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ในการให้คำปรึกษาด้านการเงินการธนาคาร กลยุทธ์การแข่งขัน โดยได้เป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อการขยายธุรกิจมากมาย รวมถึงการให้คำปรึกษาทางการเงินและการระดมทุนในประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และยุโรป ตลอดระยะเวลา 25 ปีในการทำงาน

ดร. เมธินีสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน (University of Texas at Austin) โดยได้รับทุนพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้รับรางวัลเหรียญทองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และรับทุนฟูลไบรท์เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ จากโรงเรียนบริหารธุรกิจเคลล็อกแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น (Kellogg School of Management at Northwestern University) และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกบริหารธุรกิจจากโรงเรียนธุรกิจแมนเชสเตอร์แห่งมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (Manchester Business School)