สงครามตึงเครียด-เฟดลดดอกเบี้ย หนุนทองคำพุ่งแตะ 2,900 เหรียญต่อออนซ์
สงครามตะวันออกกลางตึงเครียดงและการคาดการณ์เฟดเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,900 เหรียญต่อออนซ์ ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ฮั่วเซ่งเฮง เผยผ่านวิเคราะห์ แนวโน้มทิศทางราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-Time High ที่ระดับ 2,740 ดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์ตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ UBS
คาดว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด เดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,900 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อเนื่อง และ Bond Yield พุ่งขึ้นกดดันราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำได้ปิดตลาดลบเล็กน้อย ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ทั้งนี้ แม้ราคาทองคำยังคงทำ High ต่อเนื่อง โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high แต่รูปแบบแท่งเทียนของเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.2567) เป็นลักษณะ Gravestone Doji จึงอาจเริ่มมีการกลับตัวลงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงกลางวันนี้ (22 ต.ค.2567) ราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแคบ และชะลอการปรับตัวขึ้น
สำหรับ ราคาทองตลาดโลก แนวรับ 2,700 และ 2,685 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,740 และ 2,750 ดอลลาร์ โดยให้ระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น ชะลอการไล่ราคาเข้าซื้อ แต่แนะนำให้รอราคาทองคำย่อตัวลง โดยสามารถเข้าซื้อบริเวณ 2,700 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,685 ดอลลาร์
ส่วน ราคาทองคำแท่ง 96.5% แนวรับ 43,000 และ 42,850 บาท แนวต้าน 43,400 และ 43,500 บาท ซึ่งราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 43,000 บาท และทำ All-time high อีกครั้งที่ราคา 43,250 บาท จากราคาทองคำโลกที่ทำ All-time high และเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว โดยเงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค ตามแรงซื้อดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มราคาทองคำแท่งมีทิศทางปรับตัวขึ้น ยังคงแนะนำ Let Profit Run
