‘3 ดัชนีโลก' กอดคอทำนิวไฮใหม่ หุ้น ‘ทรัมป์ - เทสลา’ พุ่งรับอานิสงส์
‘3 ดัชนีโลก' กอดคอทำนิวไฮใหม่ หลังจาก ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ คว้าชัยชนะ หุ้น ‘ทรัมป์-เทสลา’ นำทีมพุ่งทะยาน ส่วนกลุ่มการเงินทำผลงานดีสุด
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานความเคลื่อนไหวของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (6 พ.ย.67) โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,729.93 จุด เพิ่มขึ้น 1,508.05 จุด หรือ +3.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,929.04 จุด เพิ่มขึ้น 146.28 จุด หรือ +2.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,983.47 จุด เพิ่มขึ้น 544.29 จุด หรือ +2.95%
ตลาดการเงินทั่วโลกเคลื่อนไหวตอบรับชัยชนะของพรรครีพับลิกัน จาก “ทรัมป์เทรด” ตลาดหุ้นได้แสดงการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากนักลงทุน
หุ้นกลุ่มการเงิน โดดเด่นที่สุดในบรรดา 11 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของดัชนี S&P 500 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 6.16% การเพิ่มขึ้นนี้มีปัจจัยหนุนสำคัญจากกลุ่มธนาคาร ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการผ่อนคลายกฎระเบียบหากมีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารประเทศ
ขณะเดีนวกันหุ้น Trump Media & Technology Group เพิ่มขึ้น 5.94% ในขณะที่ Tesla พุ่งขึ้นถึง 14.75% ซึ่งอาจได้รับแรงหนุนจากการที่ “อีลอน มัสก์” ได้แสดงการสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์
นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล บริษัทพลังงาน ต่างได้รับผลตอบแทนที่ดี
ในทางตรงกันข้าม หุ้นในกลุ่มพลังงานหมุนเวียนกลับปรับตัวลดลง สะท้อนให้เห็นถึงการคาดการณ์ของนักลงทุนต่อทิศทางนโยบาย และการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ลดลง 2.64% และกลุ่มสาธารณูปโภคลดลง 0.98% ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่กลุ่มที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนประเมินโอกาสที่นโยบายของทรัมป์จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และเปลี่ยนแปลงแนวทางการจ่ายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อเร็วๆ นี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์