‘อีลอน มัสก์’ รวยขึ้น  26,000 ล้านดอลลาร์ หุ้น Tesla พุ่ง 22% รับกำไรดีเกิดคาด

‘อีลอน มัสก์’ รวยขึ้น  26,000 ล้านดอลลาร์  หุ้น Tesla พุ่ง 22% รับกำไรดีเกิดคาด

ความมั่งคั่ง ‘อีลอน มัสก์’ เพิ่มขึ้น  26,000 ล้านดอลลาร์ หลังราคาหุ้น Tesla พุ่ง 22% รับกำไรโต 8% ดีเกิดคาด แผนลดต้นทุนเห็นผล มั่นใจยอดขายเพิ่มขึ้น 30% ปีหน้า

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ความมั่งคั่งของ “อีลอน มัสก์” ซีอีโอของ“เทสลา“ (Tesla) เพิ่มขึ้นกว่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่หุ้น Tesla  พุ่งกว่า 22% หลังจากที่บริษัทประกาศว่ากลับมาทำกำไรได้แล้ว

วานนี้ (24 ต.ค.) หุ้นเทสลา พุ่งสูงขึ้นถึง 22% หลังจากที่บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาดีเกินคาดในวันพุธ การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นในครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่สูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ที่เทสลาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2553

Tesla ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ดีเกินคาด โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 8% มาอยู่ที่ 25,200 ล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิเติบโต 8% มาอยู่ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์ ความสำเร็จในครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้กับบริษัท

หนึ่งในปัจจัยสำคัญมาจากการลดต้นทุนการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตได้คุ้มค่าที่สุดของ Tesla โรงงานแห่งนี้สามารถลดต้นทุนการผลิตต่อคันได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ Tesla สามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น

ในไตรมาสที่ 3 Tesla ส่งมอบรถยนต์ 462,890 คันและผลิตรถยนต์ 469,796 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า

นอกจากนี้  Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอนาคต โดยคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ของ Tesla จะเพิ่มขึ้น 20% ถึง 30% ในปีหน้า

ก่อนการประกาศผลประกอบการ หุ้นของเทสลาผันผวนอย่างมาก โดยราคาหุ้นได้ร่วงลงและทำผลงานได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับดัชนี Nasdaq ที่เติบโตขึ้น 23% ในปี 2024 หุ้นของ Tesla ยังคงสามารถทำผลตอบแทนได้เป็นบวก โดยเพิ่มขึ้น 5%

ตามรายงานของฟอบส์ (Forbes) ตอนนี้ความมั่งคั่งของมัสก์มีมูลค่าประมาณ 2.69 แสนล้านดอลลาร์ โดยมัสก์ความมั่งคั่งมาจากการถือหุ้นคงค้างของ Tesla เกือบ 13% นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของ SpaceX ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) และ xAI สตาร์ทอัพปัญญาประดิษฐ์

อ้างอิง CNBC