YLG ย้ำ'ทอง'พักตัวระยะสั้น ปีหน้าลุ้นเป้าหมาย 2,850-3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
YLG ชี้ทองคำแกว่งพักตัวระยะสั้น เหตุแรงขายทำกำไร หลังทำออลไทม์ไฮต่อเนื่องแตะ 2,790 ดอลลาร์ แต่ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น รับเทรนด์ดอกเบี้ยเฟดขาลงอีก 2 ปี ให้กรอบปีหน้า 2,850-3,000 ดอลลาร์ พร้อม 3 ปัจจัยแกร่ง ธนาคารกลางทั่วโลกตุนต่อ-สงครามกลับมาปะทุ-เศรษฐกิจสหรัฐเปราะบาง
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบพยายามทรงตัว หลังจากย่อตัวมาเกือบ 2 สัปดาห์ ราว 250 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ นับจากรับรู้ผลการเลือกตังประธานาธิบดีสหรัฐ
อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงนี้เป็นการขายทำกำไรหลังจากช่วงก่อนหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องขึ้นไปและ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นไปมากกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้มีแรงเทขายออกมารอบใหญ่ แต่ในส่วนของภาพระยะยาวนั้นยังเป็นขาขึ้น เพราะนอกจากความผันผวนในโลกของการลงทุนที่เกิดขึ้นจากปัจจัยที่ โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถชนะการเลือกตั้งแล้ว
ทั้งนี้ยังมี 3 ปัจจัย ยังหนุนทองคำแข็งแกร่ง ดังนี้
1.) การเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงเดินหน้าสะสมทองคำต่อเนื่อง โดยผลสำรวจของ World Gold Council ในปี 2567 บ่งชี้ว่า “Central Bank ทั่วโลกราว 69% จะสะสมทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะทุนสำรองฯ ต่อไปอีกอย่างน้อยในช่วง 5 ปี ต่อจากนี้” โดยเทรนด์ดังกล่าว เริ่มเห็นได้ชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2565-2566 ที่ Central Bank ได้เข้าซื้อทองคำมากถึง 1,082 ตัน และ 1,037 ตัน ตามลำดับ และในปี 2024 แม้เผชิญกับราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง แต่ Central Bank ก็ยังเข้าซื้อทองคำรวมทั้ง 3 ไตรมาสแรก (เดือนม.ค. - เดือนก.ย.) ในระดับที่ยังสูงถึง 669.5 ตัน
2.) เหตุผลด้านภูมิรัฐศาสตร์ แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่มีนโยบายสนับสนุนการทำสงครามระหว่างประเทศ แต่การจะยุติความขัดแย้งในหลายๆพื้นที่ก็ไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ประกอบกับ คณะบริหาร ณ ปัจจุบัน ซึ่งยังอยู่ภายใต้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐโจมตีใส่ดินแดนรัสเซียได้ ขณะที่ทางฝั่งรัสเซีย จึงได้ตอบโต้ โดยการลงนามกฤษฎีกาหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ จากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งสาระสำคัญคือ หากชาติครอบครองอาวุธนิวเคลียร์นั้นรุกรานรัสเซีย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือเป็นชาติที่สนับสนุนศัตรู รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อการป้องปราม ซึ่งเป็นอาวุธขั้นสุดท้ายในสถานการณ์จำเป็น นอกจากนี้ นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงให้เกิดสงครามการค้าขึ้นได้ในอนาคตโดยเฉพาะกับจีน
3.) ความเปราะบางทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ ความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐ ในยุคสมัยของทรัมป์ที่มีแนวโน้มกระตุ้นเงินเฟ้อให้กลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเกิดความกังวลถึงการที่เฟดอาจจะไม่สามารถสานต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้มากเท่าแผนการเดิม อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ รวมไปถึง SME ทำให้ขยายวงกว้างจนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทองคำจึงยังมีความสำคัญในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาว
สำหรับปี 2568 YLG คงเป้าหมายทองคำที่ 2,850-3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่เป้าหมายของทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ อยู่ที่ระดับ 46,800-49,250 บาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยน ที่ระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์) และอาจจะไปได้ถึง 50,000 บาท หากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เคลื่อนไหวใกล้โซน 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หากเฟดยังเดินหน้านโยบายดอกเบี้ยขาลงอีก 2 ปี ทองคำก็ยังปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะยาว นอกจากนี้ การประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน (LBMA) เมื่อกลางเดือน ต.ค. ผลสำรวจความคิดเห็นของคนในอุตสาหกรรมทองคำ คาดว่าราคาทองคำจะไต่ระดับขึ้นจนทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2568
ทั้งนี้ วายแอลจีได้ขยายการให้บริการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สให้ครบถ้วนมากขึ้น ล่าสุดวายแอลจีได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ YLG Futures รับสิทธิ์ใช้งาน trading View Essential Plan ที่จะมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า 5 ด้าน 1.กราฟและอินดิเคเตอร์ครบครัน รวมถึง Volume Profile 2.เครื่องมือวาดรูปและฟีเจอร์ทางเทคนิค 3.การแจ้งเตือนราคา 4.ไอเดียเทรดจากคอมมูนิตี้ 5.ไม่มีโฆษณาและอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ วายแอลจีมองว่าการลงทุนสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการออม และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย