ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉียด 3,000 ดอลลาร์

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ใกล้แตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันพฤหัสบดี แรงหนุนจากสงครามภาษี และคาดเฟดจะลดดอกเบี้ย
รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.68)ว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1.6% สู่ระดับ 2,977.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 12.25 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (16.25 GMT) ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 12 ในปีนี้
ราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 14% ในปีนี้ หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมั่นคงถึง 27% ในปีที่แล้ว
ราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) พุ่งขึ้น 1.4% สู่ระดับ 2,989 ดอลลาร์
ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยใกล้แตะระดับสำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้น และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายการเงิน
อเล็กซ์ เอบคาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Allegiance Gold กล่าวว่า “ตลาดทองคำอยู่ในภาวะกระทิงยาวนาน เราคาดว่าราคาจะซื้อขายกันที่ 3,000-3,200 ดอลลาร์ในปีนี้”
นโยบายการค้าที่ผันผวนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ช่วยให้ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนชื่นชอบท่ามกลางความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ
ด้าน นายฮาวเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเป็นสิ่งที่ “คุ้มค่า” สำหรับการนำนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์มาใช้
การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ครั้งต่อไปจะเป็นที่จับตามอง โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะคงอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนไว้ที่ระดับ 4.25%-4.50% ในวันพุธหน้า
จอห์น เซียมปาเกลีย ซีอีโอของ Sprott Asset Management กล่าวว่า “ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีศุลกากรและภัยคุกคามจากการค้าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้เฟดต้องประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อช่วยกำหนดการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป เราเชื่อว่าเฟดยังคงอยู่ในภาวะเฝ้ารอดู”
ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% เต็มตั้งแต่เดือนกันยายน แต่ได้หยุดวงจรการผ่อนปรนในเดือนมกราคม นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะกลับมาดำเนินการลดต้นทุนการกู้ยืมอีกครั้งในเดือนมิถุนายน
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมกราคม
“ความต้องการของกองทุนอีทีเอฟ ที่แข็งแกร่ง และการซื้ออย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางในฉากหลังของความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภาษีศุลกากร ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความต้องการทองคำอย่างต่อเนื่อง” ซูกิ คูเปอร์ นักวิเคราะห์ของธนาคาร Standard Chartered กล่าว
ขณะที่ กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก SPDR Gold Trust เปิดเผยว่าการถือครองเพิ่มขึ้นเป็น 907.82 เมตริกตัน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023
ข้อมูลของธนาคารกลางจีนระบุว่าจีนยังคงซื้อทองคำเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันในเดือนกุมภาพันธ์
ในส่วนอื่นๆ ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 1.7% เป็น 33.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ลุคมาน โอตูนูกา นักวิเคราะห์อาวุโสของ FXTM กล่าวว่า "การทะลุผ่านระดับ 33.30 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่งอาจเปิดประตูไปสู่ระดับ 34 ดอลลาร์สำหรับโลหะเงิน"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์