"หุ้นไทย" ปิดตลาด ปรับตัวลง 2.86 จุด บล.ซีไอเอ็มบี คาด สัปดาห์หน้าไซด์เวย์
“หุ้นไทย” ปิดตลาด ( 30 ก.ย.65 ) ปรับตัวลง 2.86 จุด อยู่ที่ 1,599.23 จุด จากศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาด "ประยุทธ์" นั่งนายกฯ ต่อ รวมทั้งตลาดฟิวเจอร์ส - ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง จากดอลลาร์อ่อนค่าอีกครั้ง และแรงเทขายลดความเสี่ยงก่อนวันหยุด "บล.เอเซีย พลัส" คาดสัปดาห์หน้าไซด์เวย์
“หุ้นไทย” ปิดตลาด (30 ก.ย.65) ปรับตัวลดลง 2.86 จุด อยู่ที่ 1,589.51 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง 0.18% มีมูลค่าการซื้อขาย 62,649.20 ล้านบาท
5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
- TEGH มูลค่าการซื้อขาย 4,101 ล้านบาท ปิดที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.17%
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,672 ล้านบาท ปิดที่ 654.00 บาท ลดลง 0.91%
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,580 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 0.73%
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,518 ล้านบาท ปิดที่ 72.50 บาท ลดลง 0.68%
- BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,780 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 1.09%
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา หัวหน้าฝ่ายวิจัยส่วนนักลงทุนรายบุคคล บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาด "ประยุทธ์" นั่งนายกฯ ต่อ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แม้ว่าอาจไม่ได้มีผลต่อตลาดมาก เพราะช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการประกาศรับวินิจฉัยไม่ได้เป็นนัยสำคัญต่อตลาดมากนัก รวมทั้งตลาดฟิวเจอร์ส และตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง จากการที่เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง และแรงเทขายลดความเสี่ยงก่อนวันหยุด
สำหรับอาทิตย์หน้า คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวรอความชัดเจน และสลับรีบาวด์
โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาในสัปดาห์หน้าคือ ทิศทางของค่าเงินบาท การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 5 ต.ค.2565 ในเรื่องของตลาดการผลิตที่มีแนวโน้มพยุงราคาน้ำมันรวมทั้งในเดือนต.ค.ติดตามงบไตรมาส 3 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่หลายๆ แบงก์ปรับขึ้นดอกเบี้ย เช่น BBL และ KBANK การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในวันที่ 1 ต.ค.2565 อีกทั้งเรื่องภาษีซื้อขายหุ้นที่อาจจะกลับมาพูดถึงในเดือนนี้ว่าจะมีการเริ่มใช้หรือไม่
รวมทั้งปัจจัยภายนอก สำหรับทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ทิศทางเงินดอลลาร์อ่อนค่าที่มีผลต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์