ส่องพอร์ต ‘แอ๊ด คาราบาว’ ใหญ่แค่ไหนในตลาดหุ้น ถือ CBG มูลค่ากว่า 5.8 พันล้านบาท
สำรวจพอร์ตหุ้น ‘แอ๊ด คาราบาว’ ถือหุ้น CBG มูลค่ากว่า 5.14 พันล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 55 ในตลาดหุ้น หากรวมกับคนในครอบครัว พอร์ตทะลุ 1 หมื่นล้านบาท
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงบนโลกออนไลน์ หลังเกิดปมดรามา “แอ๊ด คาราบาว” หรือ “ยืนยง โอภากุล” นักร้องเพื่อชีวิต ใช้คำรุนแรงสับผู้ว่าราชการ จังหวัดสุพรรณบุรี กรณีที่เคยถูกสั่งไม่ให้วงคาราบาวเล่นคอนเสิร์ตในงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดช่วงโควิดที่ผ่านมา
ปัจจุบัน แอ๊ด คาราบาว ไม่ได้เป็นแค่นักร้องเพื่อชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ใน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG โดยถือหุ้นรวม 70,480,000 หุ้น หรือ 7.05% (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
สำหรับ ราคาล่าสุดของหุ้น CBG ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ปิดที่ 82.50 บาทต่อหุ้น เท่ากับว่าหุ้นที่ แอ๊ด ถืออยู่มีมูลค่ารวม 5,814.6 ล้านบาท ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 ได้แก่ บริษัท เสถียรธรรมโฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 250,064,500 หุ้น หรือ 25.01%
โดยแอ๊ด คาราบาว เริ่มถือหุ้น CBG ครั้งแรกตั้งแต่ IPO เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ราคา 28.00 บาทต่อหุ้น จำนวน 115,480,000 หุ้น หรือ 11.55% รวมมีมูลค่า 3,233.440 ล้านบาท ดังนั้นในปัจจุบัน แอ๊ด มีมูลค่าลงทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,581.16 ล้านบาท
นอกจากนี้ CBG เคยทำราคา new high ไว้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ปิดที่ 156.00 บาท ทำให้ในขณะนั้น แอ๊ด คาราบาว มีมูลค่าลงทุนในหุ้นอยู่ที่ 10,994.88 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับราคาล่าสุด ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ปิดที่ 82.50 บาทต่อหุ้น เท่ากับว่า แอ๊ด คาราบาว ทำกำไรหายไป 5,180.28 ล้านบาทบาท (จำนวน 70,480,000 หุ้นเท่ากัน)
และถ้าหากเทียบนักลงทุนรายใหญ่ทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ แอ๊ด คาราบาว มีความร่ำรวยในตลาดหุ้นจัดอยู่ในลำดับที่ 55
ขณะที่ภรรยา ลินจง โอภากุล ถือเป็นลำดับที่ 6 จำนวน 26,166,900 หุ้น หรือ 2.62% ราคาล่าสุด ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ปิดที่ 82.50 บาทต่อหุ้นรวมมีมูลค่า 2,158.77 ล้านบาท
โดยลินจง เริ่มถือหุ้น CBG ครั้งแรกตั้งแต่ IPO เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ราคา 28.00 บาทต่อหุ้น จำนวน 26,020,000 หุ้น หรือ 2.60% รวมมีมูลค่า 728.56 ล้านบาท
ปัจจุบันมีมูลค่าลงทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,430.21 ล้านบาท
ส่วนลูกสาว ณิชา โอภากุล ถือเป็นลำดับที่ 9 จำนวน 17,794,600 หุ้น หรือ 1.78% ราคาล่าสุด ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ปิดที่ 82.50 บาทต่อหุ้น รวมมีมูลค่า 1,468.05 ล้านบาท
โดย ณิชา เริ่มถือหุ้น CBG ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559 ราคาปิดที่ 38.50 บาทต่อหุ้น จำนวน 15,779,800 หุ้น หรือ 1.58% รวมมีมูลค่า 607.52 ล้านบาท
ปัจจุบันมีมูลค่าลงทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 860.53ล้านบาท
และลูกชาย วรมัน โอภากุล ถือเป็นลำดับที่ 10 จำนวน 15,219,100 หุ้น หรือ 1.52% ราคาล่าสุด ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ปิดที่ 82.50 บาทต่อหุ้น รวมมีมูลค่า 1,255.57 ล้านบาท
โดย วรมัน เริ่มถือหุ้น CBG ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559 ราคาปิดที่ 38.50 บาทต่อหุ้น จำนวน 15,000,000 หุ้น หรือ 1.50% รวมมีมูลค่า 577.5 ล้านบาท
ปัจจุบันมีมูลค่าลงทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 678.07 ล้านบาท
รวมทั้ง ครอบครัวมีมูลค่าทั้งสิ้น 10,696.99 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการของ CBG หากย้อนไปตั้งแต่ปี 2563 ช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก แต่กลับมีรายได้สูงสุด 17,386.29 ล้านบาท และมีกำไร 3,525.03 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 20.47% เมื่อเทียบช่วงปี 2562 มีกำไร 2,506.46 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2564 รายได้เพิ่มขึ้น 17,570.33 ล้านบาท แต่กำไรลดลงอยู่ที่ 2,881.00 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปี 2563 หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 16.18% และครึ่งปี 2565 มีรายได้ 10,141.71 ล้านบาท
ด้านโบรกเกอร์ต่างตบเท้าคาดการณ์ว่า ช่วงไตรมาส 3/65 CBG จะสามารถทำกำไรได้ประมาณ 700 - 711 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16 - 18% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองจากทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่ไตรมาส 4/65 โบรกเกอร์ ประเมินว่า จะสามารถทำกำไรได้สูงสุดหลังจากที่ CBG มีการออกสินค้าใหม่ ที่ชื่อ คันโซ*2 (เครื่องดื่มชูกำลังผสมตับ) ที่เริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม แอ๊ด คาราบาว นอกจากลงทุนในหุ้นแล้ว ยังมีตำแหน่งเป็นกรรมการ บริษัทในเครือคาราบาวกรุ๊ป ได้แก่ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด บริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด บริษัท มองโกล จำกัด และบริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด อีกด้วย