ลุ้น BTG เทรดวันแรกยืนเหนือไอพีโอ งบไตรมาส 3/65 หนุน
โบรกเกอร์ คาด “เบทาโกร” เทรดวันแรก ราคาสูงกว่าไอพีโอที่ 40 บาทต่อหุ้น เหตุเป็นหุ้นไซส์ใหญ่ - กำไรไตรมาส 3/65 โตเด่น ลุ้นเข้า “เซ็ต50” ต่างชาติแห่ซื้อหุ้นไทย 6.13 พันล้าน ดันดัชนีพุ่ง 16.97 จุด ปิดที่ 1,625.73 จุด
บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG หุ้นน้องใหม่ (ไอพีโอ) ที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันนี้ ( 2 พ.ย.2565 ) ถือเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน ด้วยเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่เข้าระดมทุนในปีนี้ และเป็นธุรกิจที่ตลาดรู้จัก และคุ้นเคยมานานแล้ว
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คาดหุ้น BTG มีโอกาสเปิดเทรดวันแรกราคาสูงกว่าราคาไอพีโอที่ 40 บาทต่อหุ้น เนื่องจากเป็นหุ้นขนาดใหญ่ และธุรกิจมีความไม่ซับซ้อน นักลงทุนสามารถประเมินธุรกิจได้ และยังมีปัจจัยหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 ที่คาดว่าจะออกมาเติบโตโดดเด่น สะท้อนจากราคาสินค้าทั้งเนื้อหมู , เนื้อไก่ ทรงตัวอยู่ในระดับสูง
รวมถึงหุ้น BTG เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ในช่วงอุตสาหกรรมอาหารที่มีการเติบโต ดังนั้น ทำให้หุ้นไอพีโอของ BTG มีความน่าสนใจมากขึ้น
ดังนั้นคาดว่าหุ้น BTG จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะด้วยจุดเด่น คือ 1.มีโอกาสที่หุ้นจะลุ้นเข้าไปติดใน SET50 ได้ เพราะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้เข้าแบบฟาสต์แทร็ก 2.ผลประกอบการเติบโตดี 3.ธุรกิจไม่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับ CPF ที่มีธุรกิจอยู่ทั่วโลก ทำให้ประเมินยาก ขณะที่ BTG มีธุรกิจต่างประเทศในแถบอาเซียน และ 4.มีสัดส่วนธุรกิจร้านค้าปลีกสูงกว่า ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง
“เรามองว่าหุ้น BTG เข้ามาระดมทุนในจังหวะที่ดี ด้วยธุรกิจอยู่ในเทรนด์ขึ้น หลังจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาราคาสินค้าทั้งเนื้อหมู ไก่ ปรับตัวขึ้นมาสูงมาก คาดว่าส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตโดดเด่น”
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามผลดำเนินงานในปี 2566 อีกครั้ง เนื่องจากราคาเนื้อหมู , เนื้อไก่ ปรับตัวลงมาบ้างแล้ว ดังนั้น มีโอกาสที่ผลประกอบการในปีหน้าจะชะลอตัวจากปีนี้ได้
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้รวมที่ 54,193.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่ 3,892.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยหลักเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า วันนี้ (2 พ.ย.) หุ้นBTG เข้าซื้อขายวันแรกคาดจะทำให้บรรยากาศการลงทุนคึกคัก เพราะด้วยความที่เป็นหุ้นไซต์ใหญ่ และมีมูลค่าไอพีโอระดับหมื่นล้านบาท และยังมีหุ้นกรีนชูด้วย
ขณะที่ ในส่วนของอุตสาหกรรมนั้น หุ้น BTG ก็จะเกิดการเปรียบเทียบกับทั้ง บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) , บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) และ บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) ซึ่งคาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมอาหารมีความคึกคักมากขึ้นได้
ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ แกว่งตัวขึ้นตลอดทั้งวัน ทำจุดสูงสุด ที่ 1,628.29 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด ก่อนจะย่อมาปิดตลาดที่ 1,625.73 จุด เพิ่มขึ้น 16.97 จุด หรือ 1.05% มูลค่าซื้อขาย 68,448.75 ล้าน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยอีก 6,138.46 ล้านบาท และซื้อติดต่อกัน 8 วันทำการ รวม 22,345.94 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยในช่วงบ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง คาดว่าเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้า จากประเทศไทยมีความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์น้อยเมื่อเทียบกับ ฮ่องกง จีน และเวียดนาม จึงทำให้น่าสนใจ
รวมถึงนักลงทุนคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือนธ.ค. 2565 หลังจากการประชุมในวันที่ 1-2 พ.ย. คาดว่าจะยังคงขึ้นดอกเบี้ย 0.75%
“ส่วนตัวคาดตลาดหุ้นไทยทิศทางขาขึ้นในช่วงเดือนนี้ เพราะจบรอบการพักฐานไปแล้วในเดือนที่ผ่านมา โดยประเมินแนวต้านแรกที่ 1,630 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,650 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,600 จุด”
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะนำ เก็งกำไรหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 3 ปี 2565 ออกมาดี และดีต่อเนื่องต่อไปในไตรมาส 4 รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น หุ้นที่คาดว่าจะเข้า MSCI ,SET 50
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
