ตลท.พบบัญชีเทรดหุ้น MORE ต้องสงสัยหลัก 10 บัญชี สั่งระงับถอนเงิน - ส่งมอบหุ้น

ตลท.พบบัญชีเทรดหุ้น MORE ต้องสงสัยหลัก 10 บัญชี สั่งระงับถอนเงิน - ส่งมอบหุ้น

ตลท.เผย พบบัญชีเทรดหุ้น MORE ต้องสงสัยหลัก 10 บัญชี พร้อมระงับถอนเงิน - ส่งมอบหุ้น แจงขณะนี้รวบรวมหลักฐานที่มีนัยสำคัญกว่า 50% เชื่อสัปดาห์หน้ามีความชัดเจน ส่วนจะปลดหรือคง SP ต่อ ขณะนี้ยังตอบไม่ได้

จากความผิดปกติของการซื้อขายหุ้น MORE ที่พบในวันที่ 10 พ.ย.2565 โดยมีราคาปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด +4.3% จากราคาปิดในวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งวันที่สูงมากถึง 7,143 ล้านบาท (เฉลี่ย 30 วันก่อนหน้าอยู่ที่เพียง 360 ล้านบาท)  ซึ่ง ในช่วงที่เปิดตลาด มีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ เกือบ 4,300 ล้านบาท   

สำหรับลักษณะของการส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติคือ  ฝั่งซื้อ พบว่า เป็นการส่งคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อเพียง 1 ราย ผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่งที่ราคา 2.90 บาท ส่วนฝั่งขาย พบว่า มีการส่งคำสั่งขายเป็นจำนวนมากจากผู้ขายหลายรายที่ระดับราคาใกล้เคียงกับราคาเสนอซื้อ โดยมีจำนวนที่สั่งขายตั้งแต่ประมาณ 70 ล้านหุ้น/ราย ไปจนถึงประมาณ 600 ล้านหุ้น/ราย

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้โบรกเกอร์ได้มีการชำระค่าหุ้น MORE ต่อสำนักงานหักบัญชีเรียบร้อยแล้ว และปัจจุบันพบมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ต้องสงสัยและถูกระงับการถอนเงินและส่งมอบหุ้น จำนวนหลัก 10 บัญชี  ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าไม่มีความผิดปกติหรือมีความเกี่ยวข้องก็จะถอนการระงับดังกล่าว

 

สำหรับขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รวบรวมข้อมูลการซื้อขายที่เข้าข่ายความผิดปกติ ได้ประมาณ 50% แล้ว  ซึ่งมีหลักฐานที่มีนัยสำคัญว่ามีการ กระทำไม่ปกติ 

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มั่นใจซึ่งเชื่อว่าภายในวันศุกร์นี้  18 พ.ย.2565 จะมีความคืบหน้า ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อที่ตลาดหลักทรัพย์จะได้รวบรวมข้อมูลส่งต่อพนักงานกองบัญชาการตรวจสอบสอบสวนกลาง
 "ตลาดหลักทรัพย์จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีสถานะเป็นจำเลยแต่อยากจะเปลี่ยนเป็นพยาน ก็สามารถมาให้ข้อมูลกับทาง ตลท.ได้ เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลไปให้กับพนักงานสอบสวนฯ ต่อไป 

นายภากร กล่าวว่า  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้ตลาดหลักทรัพย์จะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยหุ้นMORE  โดยจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง)กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อาจจะมีการพิจารณาหลักทรัพย์ ที่นำมาวางเป็นหลักทรัพย์ประกันนั้นจะสามารถได้รับวงเงินได้เท่าไร เช่น การจัดเรทติ้งของหุ้นแต่ละตัว ,และการซื้อขายหุ้นจะกลับไปใช้เงินสดอย่างเดียวไม่มีมาร์จิ้นหรือไม่  รวมถึงการจัดทำข้อมูลกลางเพื่อให้โบรกเกอร์สามารถรู้ว่าลูกค้าแต่ละรายนั้นมีการเปิดบัญชี หรือได้วงเงินจากโบรกเกอร์ไปแล้วเท่าไร 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์