CPALL ดาวเด่นรับอานิสงส์ "บอลโลก"
หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 คลี่คลาย หนุนให้กำลังซื้อในประเทศเริ่มคึกคัก คนไทยออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นหลังอัดอั้นมานาน ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ สะท้อนจากตัวเลขจีดีพีที่ค่อยๆ ผงกหัวขึ้นมา
นอกจากนี้ ยังดูได้จากผลประกอบการของบรรดาห้างค้าปลีกต่างๆ ที่โกยรายได้กันเป็นกอบเป็นกำ อย่างกลุ่ม “ซีพี ออลล์” บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เครือข่ายร้านสะดวกซื้อชั้นนำของประเทศ “7-Eleven” ที่ทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยในงวดล่าสุดไตรมาส 3 ปี 2565 มีรายได้รวม 213,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% YoY และกำไรสุทธิ 3,676 ล้านบาท พุ่งแรง 146% YoY
หากผ่างบฯ ลงไปดูจะเห็นว่าธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 90,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6% YoY โดยแต่ละร้านมียอดขายเฉลี่ย 76,612 บาทต่อวัน
ขณะที่ยอดขายเฉลี่ยสาขาเดิมปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตลอดทุกไตรมาสตั้งแต่ต้นปี +13%, +14.2% และล่าสุด +22.1% เทียบกับช่วงปี 2562 ที่ยอดขายสาขาเดิม +1.7% ก่อนที่จะดิ่งหนักในช่วง 2 ปีถัดมาจากผลกระทบของโควิด โดยปี 2563 ยอดขายราคาเดิม -14.5% และปี 2564 ยังหดตัว -6.7%
ส่วนยอดซื้อต่อบิลถือว่าค่อนข้างทรงตัวอยู่ที่ 82 บาท จากช่วงครึ่งปีแรกที่ 84 บาท และปี 2564 ที่ 82 บาท ขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันฟื้นตัวต่อเนื่องเช่นกันล่าสุดอยู่ที่ 928 คน เทียบกับปี 2564 ที่มีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ย 805 คนต่อวัน หลังยกเลิกมาตรการคุมโควิด และยังได้รับอานิสงส์จากมาตารการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคของรัฐ
แม้ไตรมาส 3 จะเป็นช่วงโลว์ซีวันของกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน ทำให้การจับจ่ายใช้สอยอาจชะลอตัวลดลง แต่สำหรับ CPALL ปีนี้ถือว่าน่าประทับใจ และดูแล้วน่าจะดีต่อเนื่องไปจนจบปี เพราะไตรมาส 4 ถือเป็นไฮซีซันเข้าสู่ช่วงเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่บรรยากาศการใช้จ่ายจะยิ่งคึกคัก
และที่พิเศษปีนี้จะมีปัจจัยบวกจากอีเวนต์ใหญ่ “ฟุตบอลโลก 2022” ซึ่งในที่สุดคนไทยจะได้รับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันครบ 64 แมตซ์ หลังสามารถเจรจาต่อรองกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้สำเร็จ โดยจบที่ราคา 33 ล้านดอลลาร์ บวกภาษี 15% รวมแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท จากตอนแรกเคาะราคามา 1,600 ล้านบาท
สำหรับแห่งเงินในการซื้อ ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 มาจากหลายส่วน ทั้งกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนยักษ์ใหญ่ของประเทซ ทั้งกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน)
เชื่อว่าบรรยากาศการเชียร์ฟุตบอลโลกปีนี้จะกลับมาคึกคัก หลังคนไทยอัดอั้นมานานตั้งแต่เกิดโรคระบาด แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายคงได้เห็นบรรรยากาศเดิมๆ กลับมา เช่น การออกไปเชียร์บอลตามร้านอาหาร ลานเบียร์ ฯลฯ
หรือ หากใครดูอยู่ที่บ้าน ยิ่งบอลแข่งดึกเท่าไหร่ หลายคนอาจรู้สึกหิว อยากได้อะไรลองท้องระหว่างเชียร์บอล เชื่อว่า 7-Eleven น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะว่าสะดวก ใกล้บ้าน มีอาหารขนมคบเคี้ยวให้เลือกซื้อมากมาย ซึ่งจากสถิติในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกยอดขายของ CPALL จะคึกคักขึ้นแทบทุกปี
ด้าน บล.หยวนต้า ระบุว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 เนื่องจากจะส่งผลให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ปี 2566 คาดกำไรเติบโต 38% YoY เป็น 1.76 หมื่นล้านบาท จาก 3 ปัจจัยหนุน ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การบริโภคที่เร่งตัวขึ้น และเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง
ส่วนบล.ดาโอ ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 1.4 และ 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโต +11% และ +30% YoY จาก 1.3 หมื่นล้านบาทในปี 2564 โดยผลการดำเนินงานจะสูงสุดในไตรมาส 4 ปี 2565 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้นเร่งตัวขึ้นหลังปรับขึ้นราคาสินค้า ขณะเดียวกันหากอิงจากสัดส่วนรายได้นักท่องเที่ยว 5% หากลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาจะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการอีกราว 300 ล้านบาท