9 หุ้นอสังหาฯ เด้งรับดีมานด์นักท่องเที่ยวจีน ผลตอบแทนราคา 1 เดือน พุ่งเกิน 7%

หลังจากที่จีนออกมาประกาศยกเลิกมาตรการ การควบคุมโควิด-19 เมื่อช่วงปลายปี 2565 ส่งให้ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากยอดการจองเที่ยวบินของนักท่องเที่ยวจีนที่พุ่งกระฉูดอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ภาคการท่องเที่ยวที่จะได้รับอานิสงส์นี้ แต่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเราก็ได้ประโยชน์นี้ด้วยเช่นกัน

 ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยกับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ว่า หลังจากที่ประเทศจีน เปิดประเทศกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเราก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย เพราะนักท่องเที่ยวจีนมีความนิยมเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ทำให้มีวอลุ่มกลับเข้ามา

 ขณะที่ศูนย์ข้อมูลวิจัย และประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) ระบุว่า หลังจากที่จีนกลับมาเปิดประเทศถือว่า เป็นผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์  เพราะมีความเป็นได้ที่ทุนจีนจะกลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยอีกครั้ง หากย้อนกลับไปเมื่อช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ขณะนั้นประชาชนจีนเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในไทยค่อนข้างมาก โดยทำเลที่ตั้งที่คนจีนเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่เน้นไปยังโซนใกล้สนามบิน หรือแนวรถไฟฟ้าย่านรัชดา โดยเฉพาะคอนโดฯที่มีราคาไม่แพงมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ได้สำรวจหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่ประกอบธุรกิจที่อยู่อาศัย พบว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนราคาบวกเกิน 7% มีด้วยกัน 9 บริษัท (ข้อมูตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ 9 มกราคม 2566)

1.บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE มาร์เก็ตแคป 7,737.19 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค.2566 ที่ 5.75 บาท P/E 68.55 เท่า  P/BV 1.38 เท่า  ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +15.78%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.61% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 23,119.10 ล้านบาท รายได้รวม 4,732.70 ล้านบาท กำไรสุทธิ 116.60 ล้านบาท หนี้สิน 17,491.82 ล้านบาท

นายธงชัย  บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทแนวราบบางโครงการ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนขนาดใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ รวมถึงปริมาณการเดินทางของต่างชาติ ขณะที่ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัท เปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 11 โครงการ มูลรวมกว่า 31,550 ล้านบาท รวมถึงโครงการใหม่นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะล่าสุดที่เปิดตัว มูลค่าโครงการ 4,650 ล้านบาท

2.บมจ.ปริญสิริ หรือ PRIN มาร์เก็ตแคป 3,660.04 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่ 2.98  บาท P/E 9.26 เท่า  P/BV 0.73 เท่า  ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +12.78%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.50% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 11,546.44 ล้านบาท รายได้รวม 1,822.62 ล้านบาท กำไรสุทธิ 284.31 ล้านบาท หนี้สิน 6,499.25 ล้านบาท

3.บมจ.พีซแอนด์ลีฟวิ่ง หรือ PEACE มาร์เก็ตแคป 2,620.79 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่ 5.25 บาท P/E 6.87 เท่า  P/BV 1.23 เท่า  ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +11.11%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.21% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 2,324.92 ล้านบาท รายได้รวม 1,424.70 ล้านบาท กำไรสุทธิ 317.15 ล้านบาท หนี้สิน 194.09 ล้านบาท

นายประสพศักดิ์ ศิริโสภณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พีซแอนด์ลีฟวิ่ง หรือ PEACE คาดว่าจะมีชาวจีนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น และส่งผลให้กำลังซื้ออสังหาฯ ของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติจะเริ่มกลับมาคึกคักอีก โดยมองภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้น่าจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน

4.บมจ.บริทาเนีย หรือ BRI มาร์เก็ตแคป 9,551.42 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่  11.60 บาท P/E 7.90 เท่า  P/BV 2.15 เท่า  ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +10.89%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล -% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 10,409.98 ล้านบาท รายได้รวม 4,233.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,059.42 ล้านบาท หนี้สิน 5,959.15 ล้านบาท

ล่าสุด BRI ลงนามในสัญญากับบริษัท เอสคอน เจแปน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรตามแผนยุทธศาสตร์ Growth Together ร่วมเติบโตต่อเนื่องไปด้วยกันทุกภาคส่วน โครงการ “บริทาเนีย บางนา กม.39” เป็นโครงการใหม่ที่วางแผนเปิดขายปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวออกแบบเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดจำนวน 232 ยูนิต ระดับราคา 4.75-6.00 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ กว่า 1,250 ล้านบาท

5.บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI มาร์เก็ตแคป 28,467.82 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่ 11.80 บาท P/E 8.02 เท่า  P/BV 1.75 เท่า  ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +10.48%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.65% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 42,337.52 ล้านบาท รายได้รวม 10,626.98 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,741.16 ล้านบาท หนี้สิน 24,725.58 ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียมในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ OR เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 เครือออริจิ้นสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยได้ทั้งหมด 29,398 ล้านบาท หรือราว 84% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 35,000 ล้านบาท

6.บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ANAN มาร์เก็ตแคป 6,207.71 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่ 1.46 บาท P/E - เท่า  P/BV 0.42 เท่า  ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +10.37%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล -% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 40,615.34 ล้านบาท รายได้รวม 2,721.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ -340.79 ล้านบาท หนี้สิน 24,803.88 ล้านบาท

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ประเมินว่า การเปิดประเทศของจีนจะทำให้อสังหาฯ ไทยได้ดีมานด์ลูกค้าระดับกลางเข้ามาดูดซัพพลายในตลาดคอนโดมิเนียมมากขึ้น หลังจากชะงักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา 

7.บมจ. เอพี (ไทยแลนด์)) หรือ AP มาร์เก็ตแคป 36,177.84 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่ 11.60 บาท P/E 6.33 เท่า  P/BV 1.02 เท่า ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +8.49%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.35% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 63,663.70 ล้านบาท รายได้รวม 29,842.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,722.50 ล้านบาท หนี้สิน 28,090.11 ล้านบาท

บริษัท เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อีก 27 โครงการ มูลค่ารวม 37,760 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบอีก 24 โครงการ มูลค่ารวม 30,860 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 6,200 ล้านบาท และโครงการต่างจังหวัด 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท หลังจากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นจากดีมานด์ลูกค้าโครงการแนวราบ และแนวสูงทำเลในเมือง และปริมณฑลยังมีอยู่ต่อเนื่อง รวมถึงเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

8.บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW มาร์เก็ตแคป 6,934.58 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่ 8.20 บาท P/E 7.66 เท่า  P/BV 1.34 เท่า ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +8.00%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 5.18% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 15,228.52 ล้านบาท รายได้รวม 3,934.86 ล้านบาท กำไรสุทธิ 689.47 ล้านบาท หนี้สิน 9,838.93 ล้านบาท

ทั้งนี้ ไตรมาส 1/2566  ASW วางแผนบุกตลาด Campus Condo ต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ บนทำเลศักยภาพ ใกล้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำถึง 3 แห่ง มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,430 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) โครงการ เคฟ เอมบริโอ รังสิต  (KAVE Embryo Rangsit) จำนวน 514 ยูนิต มูลค่าโครงการ 780 ล้านบาท 2) โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (KAVE Town Island)  ใกล้ ม.กรุงเทพ จำนวน 1,770 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,150 ล้านบาท และ 3) โครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา (KAVE Pop Salaya)  ใกล้ ม.มหิดล ศาลายา จำนวน 238 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท

9.บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH มาร์เก็ตแคป 28,669.41 ล้านบาท ราคาปิด 9 ม.ค. 2566 ที่ 13.20 บาท P/E 11.07 เท่า  P/BV 0.67 เท่า ผลตอบแทนราคา 1 เดือนที่ผ่านมา +7.38%  อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.33% ส่วนงบ 9 เดือน 2565 สินทรัพย์รวม 71,974.60 ล้านบาท รายได้รวม 18,201.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,600.73 ล้านบาท หนี้สิน 27,560.57 ล้านบาท

ล่าสุด PSH ร่วมมือ 2 ธุรกิจสิงคโปร์-ไต้หวัน ตั้งกองทุน CapitaLand SEA Logistics Fund ตั้งเป้ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การจัดการ 25,000 ล้านบาท ร่วมลงทุนเริ่มต้น 6,750 ล้านบาท หรือ 270 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ มีทางเลือกเพิ่มการลงทุนได้สูงสุด 13,500 ล้านบาท หรือ 540 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการคลังจัดเก็บ และกระจายสินค้าให้บริการครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์