“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 6.79 จุด พรุ่งนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในกรอบแคบ
“ตลาดหุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้ (23 ม.ค. 66) อยู่ที่ 1,684.04 จุด เพิ่มขึ้น 6.79 จุด หรือ 0.40% “บล.เอเซีย พลัส” ชี้ พรุ่งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในกรอบแคบ ด้วยแนวต้าน 1,700 จุด ส่วนแนวรับ 1,675 จุด
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ (23 ม.ค.66) ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,689.52 จุด ต่ำสุดอยู่ที่ 1,677.52 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,684.04 จุด เพิ่มขึ้น 6.79 จุด หรือ 0.40% มูลค่าซื้อขาย 52,483.12 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
1. KBANK มูลค่า 4,660.90 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 0.69%
2. DELTA มูลค่า 2,489.34 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 890 บาท เพิ่มขึ้น 30 บาท หรือ 3.49%
3. SCB มูลค่า 1,678.36 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 107 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.38%
4. BBL มูลค่า 1,641.59 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 153 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.99%
5. CPALL มูลค่า 1,544.61 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.84%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ รีบาวด์กลับ เนื่องจาก 3 ปัจจัยหลักคือ(1) นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะจากเจ.พี.มอร์แกน บลูมเบิร์ก หรือ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต่างมองในทิศทางเดียวกันว่าความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession ในกลุ่มประเทศพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐ ลดต่ำลง (2) รัฐบาลจีนเห็นชอบให้นักท่องเที่ยวแบบกลุ่มออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ซึ่งประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากประเด็นนี้อย่างมาก และ (3) หน้าหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงอย่างร้อนแรงในช่วงสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากตัวเลขผลประกอบการหลายบริษัทต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ดังนั้นวันนี้หน้าหุ้นกลุ่มดังกล่าวจึงรีบาวด์กลับมาตามธรรมชาติ
สำหรับ ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค. 66) ยังคงขยับตัวขึ้นต่อในกรอบแคบ ด้วยแนวต้านอยู่ที่ 1,700 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,675 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยชุดเดิม ทั้งนี้ นักลงทุนอาจต้องจับตาผลประกอบการของกลุ่มอุตสาหกรรม หรือ Real Sector ที่อาจมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในอนาคต
ด้านคำแนะนำในการลงทุน ยังสามารถทยอยสะสมหุ้นได้ ทว่าหากเตรียมซื้อหุ้น 100% อาจจำเป็นต้องสำรองเงินสดไว้ประมาณ 10-15% เพราะในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยยังคงขยับตัวในกรอบแคบ โดยควรลงทุนในหน้าหุ้นกลุ่มธุรกิจการบิน กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว และกลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์