ส่องอนาคตหุ้น CBG หลังกลุ่ม “คาราบาวแดง” รุก “ธุรกิจเบียร์” แสนล้าน
“ตลาดเบียร์” เตรียมระอุ! หลัง “คาราบาวแดง” ของกลุ่มบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เตรียมกระโดดลงสนาม ท้าชนเจ้าตลาด “สิงห์-ช้าง” เรียกว่าศึกนี้สมศักดิ์ศรียิ่งนัก เพราะเป็นศึกระดับเจ้าสัวอภิมหาเศรษฐีของประเทศ
โดยปัจจุบัน ตลาดเบียร์ ของไทยมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท หรือ คิดเป็นยอดขายราวๆ 2,000 ล้านลิตร เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง 2 ผู้เล่นรายใหญ่ “กลุ่มสิงห์” แห่งอาณาจักร บุญรอดบริวเวอรี่ ของตระกูล ภิรมย์ภักดี ที่ปัจจุบันยังคงครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 โดยมีสินค้าเรือธงเบียร์ “ลีโอ-สิงห์”
ขณะที่อีกกลุ่มที่ไล่บี้มาติดๆ “ช้าง” ของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่ง เครือไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยเมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2565 ไทยเบฟฯ ได้รายงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าปัจจุบัน เบียร์ช้าง มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 40% ห่างจากคู่แข่งอันดับ 1 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่สำคัญส่วนต่างทางการตลาดยังแคบที่สุดในรอบ 13 ปีอีกด้วย
จากตลาดที่เคยแข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่าง 2 กลุ่มทุนไทยยักษ์ใหญ่ ล่าสุดจะมีอีกหนึ่งผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา แถมชื่อชั้นไม่ธรรมดาเป็นถึงระดับอภิมหาเศรษฐีเช่นกัน
โดย คุณเสถียร เสถียรธรรมะ หรือสกุลเดิม เศรษฐสิทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ CBG ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทเตรียมรุกเข้าสู่ธุรกิจเบียร์ ภายใต้งบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดไลน์การผลิตใหม่ที่โรงงานจังหวัดชัยนาท ด้วยกำลังการผลิต 400 ล้านลิตรต่อปี มีทั้งแบบขวดและแบบกระป๋อง 2-3 รสชาติ คาดเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาส 4 นี้
ส่วนชื่อแบรนด์นั้นยังอยู่ระหว่างการตั้งชื่อ แต่ตอนนี้มีอยู่ในใจแล้ว 2 ชื่อ คือ “เยอรมันตะวันแดง” ต่อยอดมาจากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงซึ่งเปิดมากว่า 20 ปี โดยปัจจุบันโรงเบียร์ฯ ผลิตเบียร์สดของตัวเองอยู่แล้วมากกว่า 10 ชนิด อีกชื่อที่เข้าตา คือ “คาราบาวแดง” ชื่อเดียวกับเครื่องดื่มชูกำลังของบริษัท เพราะแบรนด์ติดตลาด คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มคาราบาวแดงกระโดดเข้าสู่ตลาดแอลกอฮอล์ เพราะก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว บริษัท ตะวันแดง 1999 จำกัด โดยเป็นธุรกิจส่วนตัวของคุณเสถียร ไม่ได้นำรายได้ไปรวมกับ CBG โดยตะวันแดง 1999 เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสุรากลั่นครบวงจร ทั้งสุราขาว สุราสี วิสกี้ บรั่นดี และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ
เปิดตัวโปรดักส์ไปแล้วหลายแบรนด์ เช่น สุราข้าวหอม, เหล้าขาวตะวันแดง, บรั่นดีกาแลคซี, วิสกี้ เทนโดะ, โซจูแทยัง ซึ่งหลังเปิดธุรกิจมาราวๆ 5 ปี สร้างรายได้ทะลุพันล้านเรียบร้อย ด้วยจุดแข็งมีเครือข่ายร้านค้าปลีกของตัวเอง “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” กว่า 5,000 สาขา และ “ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต” อีกกว่า 1,000 สาขา ช่วยกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ
ทั้งนี้ คุณเสถียร บอกว่าการรุกเข้าสู่ตลาดเบียร์ถือเป็นไฟต์บังคับ เพราะถ้าขายเหล้าแล้ว ไม่ขายเบียร์ด้วย โอกาสที่จะเติบโตคงยาก เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่จะขายผ่านร้านอาหาร สถาบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ (On Premise) ซึ่งสินค้าที่ขายดีที่สุดในกลุ่มนี้ คือ เบียร์
การขยับตัวครั้งนี้ของกลุ่มคาราบาวแดงถือว่าน่าสนใจมากๆ แม้จะเป็นธุรกิจที่มีขาใหญ่ครองตลาดอยู่ แต่ยังมีโอกาสให้เติบโต ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มได้เคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าทำได้ ตั้งแต่การกระโดดเข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง สุรา จนถึงตลาดค้าปลีก แม้คู่แข่งจะใหญ่แค่ไหน แต่ก็ไม่เคยหวั่น!
และยิ่งทุกวันนี้พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่เปลี่ยนไป พร้อมที่จะเปิดรับอะไรใหม่ๆ กลายเป็นโอกาสให้กับบริษัท เรื่องเงินทุนก็ไม่ใช่ปัญหามีอยู่แล้วเต็มกระเป๋า แถมเครือข่ายธุรกิจก็ไม่เป็นสองรองใคร
ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้น CBG มีโอกาสตอบรับเชิงบวกในระยะสั้น หลังกลุ่มคาราบาวแดงเตรียมเปิดตัวธุรกิจเบียร์ แต่กลุ่มธุรกิจดังกล่าวนั้นดำเนินงานภายใต้บริษัทส่วนตัวของคุณเสถียร เสถียรธรรมะ ซึ่งไม่ได้มีส่วนดำเนินงานและเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของ CBG แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่าย และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ของ CBG เนื่องจาก CBG เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเครือคาราบาวแดงอยู่แล้ว ดังนั้นการขยายเข้าสู่ธุรกิจเบียร์ที่มีขนาดใหญ่จะช่วยหนุนรายได้ธุรกิจดังกล่าว ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าจะเป็นอัพไซด์ต่อผลการดำเนินงานในปี 2567 เป็นต้นไป