บริษัทจดทะเบียน " จ่ายปันผล"ปี 65สูงสุดเป็นประวัติการ 6.45 แสนล้าน
ตลท.เผย ปี 2565 บริษัทจดทะเบียน จ่ายปันผลปี 65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6.45 แสนล้าน เหตุ กำไรเติบโต แนะซื้อหุ้นปันผล ก่อนประกาศจ่าย เดือนมี.ค.-พ.ค. เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลตามเป้าหมายที่วางไว้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดข้อมูล SET Note เรื่อง เทศกาลจ่ายเงินปันผล: ช่วงเวลาสำคัญ หาจังหวะ เลือกหุ้นปันผล
Key Point
• ปี 2565 บจ.จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น มูลค่า 645,622 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการจ่ายเงินปันผลของ 564 บริษัท รวม 846 ครั้ง
• 3 หมวดธุรกิจที่มีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่าสูงสุดในปี 2565 ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
• ในช่วงเทศกาลจ่ายเงินปันผลในช่วงมี.ค. - พ.ค. 2565 บจ.จ่ายเงินปันผลรวม 530 ครั้ง หรือคิดเป็น 62.6% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลทั้งหมดในปี 2565
จากสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกที่อยู่ในภาวะถดถอย อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับสูงส่งผลให้อำนาจซื้อในมือลดลง โดยดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนที่สูงสุดของธนาคารพาณิชย์ในประเทศ อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ คืออยู่ในช่วง 0.20% - 1.90% และจากการพิจารณาผลตอบแทนจากเงินปันผล ณ สิ้นปี ของบริษัทจดทะเบียนไทย(บจ.)ในปี 2561 - 2565 พบว่า ในทุกปีที่ทำการศึกษาผลตอบแทนจากเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (SET) สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน
โดยสูงประมาณ 1.3 เท่าของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนที่สูงสุดของธนาคารพาณิชย์ในประเทศ[1] และ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทจดทะเบียนในบางอุตสาหกรรมให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่า 5 เท่าของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลเป็นทางเลือกหนึ่งการเคลื่อนย้ายเงินออมบางส่วนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556 - 2565) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการเติบโตของกำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียน โดยมีมูลค่าเงินปันผลที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นกว่า 5.12 ล้านล้านบาท และในปี 2565 มีการจ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีมูลค่าเงินปันผลจ่ายสูงถึง 645,622 ล้านบาท (ภาพที่ 2) ที่สำคัญเป็นผลจากกำไรสุทธิปี 2564 ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่เปิดตลาด และกลับมาสูงกว่ากำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนไทยก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และเติบโตต่อเนื่องในปี 2565 โดยกำไรสุทธิสำหรับช่วง 9 เดือนของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 811,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยในปี 2565 มีการจ่ายเงินปันผลรวมให้แก่ผู้ถือหุ้นรวม 846 ครั้ง จากบริษัทจดทะเบียน 564 บริษัท (บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จ่ายเงินปันผลปีละครั้ง บางบริษัทจ่ายปีละ 2 ครั้ง หรือ 4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของแต่ละบริษัท โดยในช่วงเทศกาลจ่ายเงินปันผลในช่วงเดือนมี.ค. - พ.ค. 2565 มีการจ่ายเงินปันผลรวม 530 ครั้ง หรือคิดเป็น 62.6% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลทั้งหมดในปี 2565
ทั้งนี้ในเดือนพ.ค. 2565 มีจำนวนครั้งในการจ่ายเงินปันผลมากที่สุด รวม 441 ครั้ง หรือคิดเป็น 52.1% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลทั้งหมดในปี 2565 และในแต่ละปีจะมีเทศกาลจ่ายเงินปันผลอีกหนึ่งรอบในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งในเดือนกันยายน 2565 มีการจ่ายเงินปันผลรวม 180 ครั้ง หรือประมาณ 21.3% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลในปี 2565
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณามูลค่าการจ่ายเงินปันผลในปี 2565 ตามหมวดธุรกิจ พบว่า 3 หมวดธุรกิจที่มีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่าสูงสุดในปี 2565 ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
จากที่กล่าวมาข้างต้นอาจสรุปได้ว่า บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นตามกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีการจ่ายเงินปันผลในช่วงเวลาเดิมของทุกปี คือประมาณเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2566 ดังนั้น ในช่วงเวลาก่อนประกาศจ่ายเงินปันผล เป็นช่วงเวลาสำคัญที่นักลงทุนจะคัดเลือกหุ้นปันผลและเลือกจังหวะเวลาในการเข้าซื้อหุ้นปันผลเข้าพอร์ตการลงทุนของตน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลตามเป้าหมายที่วางไว้