ดาวโจนส์ทะยาน 376 จุด ลุ้น CPI บ่งชี้เงินเฟ้อผ่านจุดพีค
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(13ก.พ.)พุ่งขึ้น 376 จุด ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้จะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 376.66 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 34,245.93 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 46.83 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 4,137.29 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 173.67 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 11,891.79 จุด
ราคาหุ้นของโนวาแวกซ์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐทำข้อตกลงซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ของทางบริษัทจำนวน 1.5 ล้านโดส
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.5% ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 5.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 5.7% ในเดือนธ.ค.
ตลาดหุ้น ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด