DELTA หุ้นสุดร้อนแรง โบรกเกอร์เตือน เสี่ยงสูง - แพงเกินพื้นฐาน
DELTA ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2565 ออกมาค่อนข้างดีเกินคาด ดันราคาปิดทะลุไปกว่า 1,000 บาท มีมูลค่าการซื้อขายที่ 4,438.13 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ส่งผลให้มูลค่ามาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 1.26 ล้านล้านบาท
ตลอดทั้งวัน (2 มีนาคม 2566) ราคาหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ หรือ DELTA ร้อนแรงทะลุปรอทแตกไปกว่า 1,000 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดระหว่างวัน (All time high) ที่ระดับ 1,016 บาทต่อหุ้น ราคาต่ำสุดที่ 970 บาทต่อหุ้น และราคาปิดที่ระดับ 1,000 บาท หรือ +14.00 บาท หรือ +1.42% มีมูลค่าการซื้อขายที่ 4,438.13 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ส่งผลให้มูลค่ามาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 1.26 ล้านล้านบาท หลังจากที่ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2565 ออกมาค่อนข้างดีเกินคาด ขณะที่นักวิเคราะห์ มองว่า มีความเสี่ยงสูง หลังจากที่ราคาแพงเกินพื้นฐานไปมาก
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/65 ออกมาดีดั่งที่คาดหมาย แต่ราคาแพงมาก แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่า เป็นหุ้นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศ
ทั้งนี้ ถ้าถามว่า ถ้าขึ้นมาแล้ว แพงขนาดนี้จะลงเมื่อไร จะต้องลงหรือไม่ ตามประวัติศาสตร์หุ้นที่มีขนาดมาร์เก็ตแคปใหญ่เกินจริง เกินกว่ารายได้เยอะขนาดนี้ มักจะต้องมีการปรับลดลง หรือโดนเช็กบิล และร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประวัติศาสตร์ก็มีให้เห็นหลายๆ หลักทรัพย์ อาจจะเป็นความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนที่ยังคงต้องระวัง
อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมแล้ว นักลงทุนยังยอมรับที่จะเข้าไปเก็งกำไร ผลประกอบการไม่ได้แย่ แม้ราคาแพงนักลงทุนก็ยังอยากเข้าไปเก็งกำไร ส่วนเรื่องแตกพาร์ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นด้วย รวมถึงได้มีการลดขนาดการซื้อขายลงมาจากที่เคยซื้อ 100 หุ้น ก็ลงมาเหลือ 50 หุ้น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สาเหตุของราคาหุ้น DELTA ที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นประเด็นเรื่องของการแตกพาร์ที่อาจจะใกล้เวลาแล้วหรือไม่ แต่ราคาเกินพื้นฐานเหมาะสมที่ของเราไว้ที่ 600 กว่าบาทไปเยอะแล้ว ซึ่งถือว่ามีความร้อนแรงเกินไป ไม่แนะนำให้เก็งกำไรตาม
นายแจ็คกี้ จาง ประธานบริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA กล่าวว่า ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2565 มีกำไรสุทธิ 15,344.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,699 ล้านบาท ซึ่งปี 2565 นี้บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 118,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.6% ปี 2564 เป็นผลมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของลูกค้าต่อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ และระบบศูนย์ข้อมูล รวมถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการควบคุมอุณหภูมิความร้อนในยานยนต์ทั่วไป
สำหรับในปี 2565 ยอดขายในตลาดเอเชียมีสัดส่วนลดลงจากปีก่อนหน้า 34% ขณะยอดขายในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 37% และในยุโรปเพิ่ม 28% และมีมติคณะกรรมการให้จ่ายปันผลเป็นเงินสด งวดปี 2565 จำนวน 4 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 28 ก.พ.66 วันที่จ่ายปันผล 28 เม.ย.66
นอกจากนี้ คณะกรรมการมีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (PAR) โดยแบ่งแยกมูลค่าที่ตราไว้ (split par) จากมูลค่าพาร์เดิม 1.00 บาท/หุ้น เป็นมูลค่าพาร์ใหม่ที่ 0.10 บาท/หุ้น โดยจะเสนอในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 7 เม.ย.66 ซึ่งจะมีผลทันทีหากผู้ถือหุ้นอนุมัติ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์