ดักทางหุ้นปันผล กลยุทธ์รับผลตอบแทนต่อเนื่อง
ฤดูกาลจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2565 พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรับสิทธิได้รับเงินปันผล ซึ่งในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 ผลประกอบการรวมออกมาผิดคาดโดยเฉพาะหุ้นบิ๊กแคป ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงมารับข่าวลบดันอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงขึ้นตามแทน
ปัจจุบันตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลง และดัชนีทำนิวไลว์จากเดือนม.ค. ดัชนีแตะ 1,690 จุด ด้วยแรงซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ 18,997 ล้านบาท แต่เดือนก.พ. ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องท่ามกลางต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 40,000 ล้านบาท ดันดัชนีหุ้นไทยลงมาแตะ 1,606 จุด (3 มี.ค.)
การขายสุทธิของต่างชาติถือว่ายังไม่น่าตกใจจากปี 2565 ไล่ซื้อหุ้นไทยสะสมในพอร์ต 2 แสนล้านบาท แต่การขายต่อเนื่องทั้งเดือนก.พ.ในหุ้นขนาดใหญ่ทำให้ หุ้นไทยกลับมามี Valuation อยู่ในโซนลงทุน ด้วยอัตรากำไรต่อหุ้น (PER) ที่ 15.7 เท่า จากค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 16-17 เท่า หุ้นไทยสามารถลุ้นรีบาวด์ได้ในรอบนี้
เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงอัตราการจ่ายเงินปันผลผกผันเพิ่มขึ้นจนทำให้เป็นจุดที่น่าสนใจลงทุน หลังตัวเลขเบื้องต้นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 ปี 2565 จากจำนวนที่รายงานกำไรแล้ว 545 บริษัท มีการพบว่ากลุ่ม 12.7% ของบริษัทที่มีการคาดการณ์กำไรดีกว่าคาด ขณะที่ 18.7% กับพบว่าออกมาแย่กว่าคาด
โดยมีกำไรโดยรวมแย่กว่าคาดถึง -37.9% ขณะที่กำไรรวม -61.1% (y-y) จึงมีการคาดการณ์ว่าเบื้องต้นกำไรรวมทั้งตลาดในงวดดังกล่าวอยู่ราว 1.56 แสนล้านบาท หากรวมกำไร 9 เดือนแรกปี 2565 ที่ 8.32 แสนล้านบาท กำไรทั้งตลาดปี 2565 จะอยู่ราว 9.88 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นปันผลมักจะเจอคำถามสำคัญว่าเลือกหุ้นด้วยกลยุทธ์อย่างไร และไม่ติด “กับดักราคาหุ้น” เพราะต้องไม่ลืมว่าหุ้นปันผลดีไม่จำเป็นที่ราคาหุ้นจะต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะการโฟกัสที่หุ้นปันผลจะเน้นการเติบโตที่สม่ำเสมอไม่ผันผวน สามารถรักษากระแสเงินสด มีกำไรต่อเนื่องเพื่อนำมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
รวมทั้งข้อระวังของหุ้นปันผลที่มีจะมาพร้อมกับการจ่ายในรูปแบบของเงินสด หุ้นปันผล รวมทั้งแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มทุนทางอ้อมให้กับผู้ถือหุ้น และจะมีผลต่อราคาหุ้นที่ถืออยู่ตามมา จึงทำให้การคัดเลือกหุ้นปันผลจะเน้นมองไปที่การจ่ายปันผลในรูปของเงินสดเท่านั้น
นอกจากนี้ยังต้องประเมินการเปลี่ยนแปลงของบริษัท และนโยบายปันผลต่อเนื่อง เช่นการกำหนดนโยบายปันผลเน้น “ไม่ต่ำกว่า” แทน “ไม่น้อยกว่า” เป็นการเปิดช่องให้สามารถจ่ายปันผลได้มากขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน มองกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นปันผลตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลกเข้าสู่ปลายวงจรขาขึ้นทั้งสหรัฐ และยุโรป เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง
ทั้งนี้ จากการศึกษาทีมกลยุทธ์ พบว่า กลยุทธ์หุ้นปันผล Big Cap ซื้อก่อน XD 2 สัปดาห์ และขายหลัง XD 1-2 สัปดาห์ก็ให้ผลตอบแทนน่าพอใจ 2.8-3.9% กลยุทธ์หุ้นปันผล Mid-Small Cap ควรสะสมก่อน XD 2 เดือนและขายหลัง XD 1-2 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนสูง 9.2-9.6%
กลยุทธ์หุ้นปันผล ครึ่งปีหลัง 2565 แนะนำดูที่ High Yield จากการคัดกรองหุ้นปันผลเด่น ครึ่งปีหลัง 2565 ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ ดังนี้ 1.เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล ครึ่งปีหลัง 2565 สูงกว่า 3% และ 2. เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มเติบโตหรือกระแสเงินสดมั่นคง เหมาะแก่การเข้าลงทุน-เก็งกำไร
ช่วงนี้พบว่าหุ้นที่อยู่ภายใต้ CNS Coverage ที่น่าสนใจได้แก่ TISCO (7.0%), NER (5.9%), AP (5.3%), MC (5.2%), ICHI(5.2%), ORI (4.5%), THANI (4.3%), BAM (3.8%), LH (3.6%),SIRI (3.5%), SC (3.3%), RATCH (3.3%), SAWAD(3.0%)
ทั้งนี้หุ้นปันผลสูงในมุมมองของ Consensus มีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ VNG, RJH, NER, ILINK, AP, NOBLE, BRI, DCC บล.โกลเบล็ก แนะนำ ADVANC –TISCO –SCB –PT -SMIT
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์