WHA ลุ้นปิดดีลใหญ่ขายที่ดิน คาดชัดเจนครึ่งปีแรก ดันรายได้ปีนี้ออลไทม์ไฮ

WHA ลุ้นปิดดีลใหญ่ขายที่ดิน คาดชัดเจนครึ่งปีแรก ดันรายได้ปีนี้ออลไทม์ไฮ

“ดับบลิวเอชเอ” ลั่นผลงานปี 2566 มีโอกาสทำ “ออลไทม์ไฮ” อีกปี หากปิดดีลขายที่ดินลูกค้ารายใหญ่ได้ ลุ้นกลางปีจ่อปรับเป้าจาก 1,750 ไร่ แย้ม “จีน” ยึดพื้นที่ลูกค้าต่างชาติสัดส่วนแตะ 43% พร้อมคงเป้ารายได้ 5 ปี “แสนล้าน”

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่มีความขัดแย้ง ดังนั้น ประเทศไทยคือ หนึ่งในหมุดหมายที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาตั้งฐานการลงทุน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของฐานการผลิต สะท้อนผ่านกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมมีการเติบโตต่อเนื่อง 

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA เปิดเผยว่า ทิศทางผลดำเนินงานในปี 2566 มีโอกาสทำจุดสูงสุด (All Time High) อีกครั้ง สะท้อนผ่านกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ปีนี้ยังคงโดดเด่น ซึ่งบริษัทมีตั้งเป้ายอดขายที่ดิน จำนวน 1,750 ไร่ แบ่งเป็นไทย 1,200 ไร่ ประเทศเวียดนาม 550 ไร่ ที่สำคัญยังไม่รวมลูกค้ารายใหญ่ที่อยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งปัจจุบันนิคมฯ ของ WHA มีสัดส่วนลูกค้าหลักเป็น “สัญชาติจีน” ถึง 43% หรือในช่วง 3 ปี เติบโตกว่า 13% 

“เราคาดว่าหากปิดดีลโปรเจกต์ดังกล่าวได้ จะทำให้ผลงานปีนี้ทำ All Time High อีกปี ซึ่งครึ่งปีหลังอาจจะต้องรอดูมีการปรับประมาณการยอดขายที่ดินใหม่ จาก 1,750 ไร่”

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ปัจจุบันมีพื้นที่ภายใต้การจัดการ 2.71 ล้านตารางเมตร ในสิ้นปี 2565 โดยในปีนี้จะได้เห็นโครงการใหม่บริเวณพื้นที่ บางนา-ตราด เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีพื้นที่ภายใต้การจัดการแตะ 2.9 ล้านตารางเมตร

“ปีนี้ ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ ตั้งเป้าขยายธุรกิจในประเทศไทย โฟกัสในพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ ได้แก่ กรุงเทพฯ บางนา-ตราด และจังหวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในเวียดนาม” 

ขณะที่ธุรกิจ Office Solutions เดินหน้าขยายโครงการอาคารสำนักงานอีกหลายแห่งในกรุงเทพฯ ล่าสุด โครงการ WHA KW S25 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.ค. 2566 สำหรับปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ มีโครงการอาคารสำนักงานจำนวน 6 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 100,000 ตารางเมตร

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 บริษัทคาดว่าจะมีการส่งมอบโครงการใหม่ และสัญญาใหม่ คิดเป็นพื้นที่รวม 200,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 165,000 ตารางเมตร ในประเทศไทย และ 35,000 ตารางเมตร ในเวียดนาม รวมถึงได้ตั้งเป้าขายสินทรัพย์พื้นที่ 142,000 ตารางเมตร ให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 3,250 ล้านบาท

ขณะที่ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ จากที่ผ่านมาได้ขายไปในปีที่แล้วบางส่วน และยังอยู่อีก 1 ส่วนนั้น บริษัทยอมรับว่าจะไม่ทำ operation Data Center แต่จะดำเนินเป็นในรูปแบบให้เช่าแทน

สำหรับ ธุรกิจน้ำในปีนี้ตั้งเป้าปริมาณการขายยังเติบโตได้ดี ด้านธุรกิจไฟฟ้าตั้งเป้าจะมีพอร์ตของพลังงานหมุนเวียนแตะ 300 เมกะวัตต์ หรือเติบโต 160 กว่าเมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 136 เมกะวัตต์ โดยวางแผน 60 เมกะวัตต์ เป็นโซลาร์รูฟท็อป และอื่นๆ 100 เมกะวัตต์

ขณะที่แผนธุรกิจ 5 ปี (2566-2570) บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติรวม 100,000 ล้านบาท ด้านงบลงทุนตั้งเป้าไว้ที่ 68,500 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. WHA Logistics 17,000 ล้านบาท 2. WHA Industrial Development 29,000 ล้านบาท 3. WHA Utilities & Power 18,500 ล้านบาท และ 4.WHA Digital 4,000 ล้านบาท และจากแผนการลงทุนดังกล่าวยังทำให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD) ต่ำกว่า 1.2 เท่า 

“เรายังคงเป้าหมายรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติ 5 ปี (2566-2570) ที่ 100,000 ล้านบาท พร้อมทั้งรักษา EBITDA มากกว่า 40% โดยยังเติบโตทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ”

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์