หุ้นทริปโท ฯ ร่วงกราว I ออฟเรคคอร์ด
ตามคาดหลังเกิดข่าวใหญ่สหรัฐสั่งปิด 3 ธนาคารหลังเผชิญขาดสภาพคล่อง
๐๐๐ หุ้นทริปโท ฯ ร่วงกราว
ตามคาดหลังเกิดข่าวใหญ่สหรัฐสั่งปิด 3 ธนาคารหลังเผชิญขาดสภาพคล่องจนกลายเป็นประเด็น กระทบ ความเชื่อมมั่น “วิกฤติการเงิน” จะกลับมาอีกรอบหรือไม่
สินทรัพย์เสี่ยง “หุ้น” เจอแรงขายยิ่งในไทยเผชิญหนักกว่าภูมิภาคลงไปทำ นิวไลว์ อีกแล้ว ที่ 1,573 จุด สะท้อนความอ่อนไหวและอ่อนบางของตลาดในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี
แม้สาเหตุและต้นตอของปัญหา Bank Run ในสหรัฐจะไม่ได้มาจากหนี้เสีย - ผิดนัดชำระหนี้ แต่เป็นการด้อยสินทรัพย์จากแรงถอนเงินของธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี่
หันมาดู หุ้นที่เป็นตัวแทนหมู่บ้าน และเดินหน้าลงทุนในด้านนี้ในช่วงตลาดพีค ๆ ยกให้ JTS -ZIGA ที่จัดสรรเงินลงทุนด้านนี้โดยเฉพาะ
และเคยพาราคาหุ้นทะยาน“ ทู เดอะ มูน” กันมาแล้ว แต่พอตลาดคริปโทฯ ขาลง ราคาดิ่งหนักยิ่งผนวกกับประเด็นล่าสุดทำให้ ZIGA ปิดต่ำสุด 2.62 บาท ลดลง 7 % ตามมาด้วย JTSราคาปิด 37.25 บาท จากต่ำสุดของวัน 37.00บาท
กลายเป็น โดมิโน่ .....price effect ซะแล้ว
๐๐๐
“เลือดสาด” หุ้นไทยถูกถล่มขายหนักในช่วงท้ายตลาด ดัชนีดิ่งแรงกว่า 20 จุด แย่กว่าหลายๆ ตลาดในภูมิภาค ท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อวิกฤต Bank Run ในสหรัฐ แม้ว่าหน่วยงานต่างๆ ทั้งคลัง แบงก์ชาติ ตลท. รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์หลายๆ สำนัก จะมองตรงกันว่าผลกระทบต่อประเทศไทยมีจำกัด แต่นักลงทุนยังดูไม่ค่อยมั่นใจ จึงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาก่อน นำโดยหุ้นแบงก์
โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,573.07 จุด ลดลง 26.58 จุด หรือ 1.66% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,602.65 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,572.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 79,662.39 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขาย 2,143.60 ล้านบาท พอร์ตโบรกฯ ขาย 1,861.88 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อ 3,481.09 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อ 524.39 ล้านบาท
๐๐๐
หุ้นบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) กลับมาบวกวันแรกในรอบ 6 วันทำการ ปิด 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.07% หลังออกมาสยบข่าวลือไม่คิดทิ้งกิจการ “เรด ล็อบสเตอร์” อย่างแน่นอน โดยตอนนี้ยอดขายค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
๐๐๐
ส่วนหุ้นบมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) พุ่งแรงตามคาด บวก .23.66% ปิดการซื้อขาย 57.50 บาท โดยระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 57.75 บาท รับข่าวที่ “ไทยเบฟ” ประกาศตั้งโต๊ะทำเทนเดอร์รับซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมด 20.34% ด้วยราคาสูงถึงหุ้นละ 59 บาท หรือ คิดเป็นอัพไซด์กว่า 26% จากราคาปิดล่าสุดก่อนประกาศแผนเทนเดอร์ที่ 46.50 บาท
๐๐๐
หุ้นกลุ่ม “บีทีเอส” ร่วงยกแผง หลัง ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา “เจ้าสัวคีรี” และอดีตผู้ว่า กทม. “สุขุมพันธ์” พร้อมพวกรวม 13 ราย ร่วมกันทุจริตต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย
ขณะที่ทางกลุ่มยืนยันหนักแน่นว่าการต่อสัญญาถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน และเตรียมแถลงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการในวันนี้
๐๐๐
หลัง กพช. ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมอีก 3,668.5 เมกะวัตต์ ภาคเอกชนรีบออกมารับลูกทันที โดยบมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) และบมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ประกาศพร้อมร่วมชิงเค้กทันที
ส่วน “ยุทธ ชินสุภัคกุล” ประธานกรรมการ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ระบุว่าตั้งเป้าที่จะยื่นขอผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนในรอบที่ 2 นี้ อีก 100 เมกะวัตต์
๐๐๐
ทำความรู้จักหุ้นไอพีโอน้องใหม่ บมจ.อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น (ITTHI) ทำธุรกิจหลักจำหน่ายผลิตไฟฟ้าส่องสว่าง ล่าสุดเคาะราคาจองออกมาแล้วที่หุ้นละ 3 บาท คิดเป็น P/E ที่ 38.30 เท่า โดยจะเปิดให้จองซื้อตั้งแต่วันที่ 14-16 มี.ค. นี้