หุ้นยุโรปปิดร่วง หุ้นแบงก์ฉุดตลาด ร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในปีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันจันทร์ (13 มี.ค.) โดยร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในปีนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารยังคงร่วงลง แม้ทางการต่าง ๆ เข้าดำเนินการเพื่อจำกัดผลกระทบจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (เอสวีบี) ของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 442.80 จุด ลดลง 10.96 จุด หรือ -2.42%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,011.50 จุด ลดลง 209.17 จุด หรือ -2.90%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่14,959.47 จุด ลดลง 468.50 จุด หรือ 3.04% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,548.63 จุด ลดลง 199.72 จุด หรือ -2.58%
หุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มการเงิน, กลุ่มประกัน รวมถึงกลุ่มพลังงาน ร่วงลงจากแรงเทขาย โดยกลุ่มธนาคารยุโรป ดิ่งลง 5.7% หลังเผชิญแรงขาย 2 วันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉาก
บรรดานักลงทุนวิตกเกี่ยวกับงบดุลบัญชีของภาคธนาคารหลังการล้มละลายของเอสวีบี โดยหุ้นเครดิตสวิส ร่วง 9.6% สู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์
หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนี ร่วง 12.7%, หุ้นโซซิเอเต้ เจเนเรลของฝรั่งเศส ร่วงลง 6.2% และหุ้นซาบาเดลล์ของสเปน ดิ่งลง 11.4%
หุ้นเอชเอสบีซี ร่วงลง 4.1% หลังเข้าซื้อธุรกิจของเอสวีบีในอังกฤษในราคา 1 ปอนด์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำกับดูแลด้านการธนาคารของยูโรโซนมองว่า การล้มละลายของยูโรโซนมีผลกระทบที่จำกัดต่อธนาคารของยุโรป ขณะที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสระบุว่า ธนาคารของยุโรปไม่มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนที่เกิดจากพอร์ตการลงทุนในพันธบัตร
นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนเลย์ระบุว่า สภาพคล่องที่แข็งแกร่งในโครงสร้างงบดุลบัญชีจะช่วยหลีกเลี่ยงการบังคับขายพันธบัตร
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และกระทรวงการคลังสหรัฐได้ประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และระบุว่าผู้ฝากเงินกับเอสวีบีจะเข้าถึงเงินฝากได้ภายในวันจันทร์
ภาวะตึงเครียดในภาคการเงินกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยนักลงทุนมองว่ามีโอกาส 68% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับขึ้น 0.50% ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ไม่คาดการณ์อีกต่อไปว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในสัปดาห์นี้
หุ้นเชลล์ หุ้นบีพี และหุ้นโททาลเอเนอร์จี ร่วงลงราว 4-5% ตามราคาน้ำมัน
หุ้นซาโนฟีของฝรั่งเศส ร่วง 1.7% จากแผนการซื้อหุ้นโพรเวนชัน ไบโอ อิงค์เป็นเงิน 2.9 พันล้านดอลลาร์