“หุ้นไทย” ดิ่ง 49.18 จุด ย่อตัวตามภูมิภาคจาก SVB ล้ม พรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,518.66 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,523.89 จุด ลดลง 49.18 จุด หรือ 3.13% มูลค่าซื้อขาย 103,823.81 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. KBANK มูลค่า 5,897.30 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.17%

2. SCB มูลค่า 4,101.54 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 2.26%

3. CPALL มูลค่า 3,488.76 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 3.63%

3. PTT มูลค่า 3,329.39 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.48%

4. AOT มูลค่า 2,959.92 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 66.25 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.21%

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงแรงมากเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley Bank หรือ SVB และปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ย่อลงประมาณ 2%-2% กว่าๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแรงขายลดความเสี่ยง อีกทั้งสัญญาณทางเทคนิคก็ชี้ว่าอยู่ในช่วงน่ากังวล

“ผมมองว่าพอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กองทุนใหญ่-เล็กในประเทศก็จำเป็นต้องขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาเพื่อซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม 2-3 วันมานี้ดัชนีฯ ลงแรงมาก ในอนาคตนักลงทุนอาจเห็นโอกาสเข้าซื้อก็ได้”

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) อาจเเกว่งด้วย โดยมีแนวรับในช่วง 1,520 จุด - 1,540 จุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญที่อาจเกิดการรีบาวด์ได้ทุกขณะ ในขณะที่แนวต้านอยู่ในช่วง 1,555 จุด - 1,560 จุด  โดยสำหรับคำแนะนำในการลงทุนในช่วงนี้ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยง หรือถือเงินสดไว้ อย่างไรก็ตามหากจำเป็นต้องเข้าซื้อแนะนำหน้าหุ้นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำที่มีพื้นฐานดีและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มของธนาคารในสหรัฐ​ เช่น BBL SCB และ KBANK เป็นต้น