เช็กหัวจ่าย 8 หุ้น 'สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า' ตัวไหนแรงสุด
8 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ที่ให้ความสนใจเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สร้างผลกำไร และรายได้ก้าวกระโดดไปไกลแค่ไหน
หนึ่งในเมกะเทรนด์โลกที่มาแรงคงหนีไม่พ้นรถยนต์ไฟฟ้า เพราะไม่มีการปล่อยมลพิษ หรือ Zero Emission ทำให้ผู้ประกอบการหลายแห่งรุกเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับเทรนด์อนาคตนี้ ทั้งนี้ในบริษัทจดทะเบียนมี 8 บริษัทที่ให้ความสนใจเปิดสถานีชาร์จ
กรุงเทพธุรกิจ ได้รวบรวมข้อมูลของ 8 บริษัทถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา สร้างผลกำไร และรายได้ก้าวกระโดดไปไกลแค่ไหน (ข้อมูล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 15 มี.ค.66)
8 หุ้น 'สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า'
1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มาร์เก็ตแคป 864,030.64 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานของ ปตท. กำไรสุทธิจำนวน 91,175 ล้านบาท มาจากผลการดำเนินงานของ ปตท. คิดเป็น 17% ซึ่งลดลงจากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ที่มีต้นทุนราคาค่าเนื้อก๊าซฯ ปรับสูงขึ้นมาก และอีก 83% มาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือ ปตท. ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 51% ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน และบริษัทย่อยอื่นๆ 23% กลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก 8% และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 1% ขณะที่รายได้อยู่ที่ 3,391,622.87 ล้านบาท นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีมติจ่ายเงินปันผลในรอบนี้เป็นเงินสด จำนวน 0.70 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 2 มี.ค.66 จ่ายปันผลในวันที่ 28 เม.ย.66
ล่าสุด PTT เปิดให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ภายใต้แบรนด์ ออน-ไอออน (on-ion EV Charging Station) ในพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พร้อมให้บริการชาร์จไฟแก่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด เชื่อมต่อความสุข เดินทางไม่สะดุด จุดบริการทั่วไทย
on-ion EV Charging Station พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 17 สาขาได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต เซ็นทรัล อยุธยา เซ็นทรัล บางนา เซ็นทรัล พระราม 2 เซ็นทรัล วิลเลจ สุวรรณภูมิ เซ็นทรัล เวสต์เกต เซ็นทรัล อุดรธานี เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัล ศาลายา เซ็นทรัล ลาดพร้าว เซ็นทรัล โคราช เซ็นทรัล พระราม 3 และ เซ็นทรัล พระราม 9 และพร้อมให้บริการอีก 20 สาขาทั่วประเทศ
2.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL มาร์เก็ตแคป 547,969.18 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2565 มีกำไรสุทธิ 13,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จากปี 64 ที่กำไร 12,985 ล้านบาท
ส่วนรายได้รวม 852,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 64 คิดเป็น 45.1% ทั้งนี้รายได้จากการขายสินค้าและบริการ 829,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.7% จากปีก่อนหน้า จากการที่บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าและบริการ รวมถึงกลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปสู่วิถีชีวิตใหม่ รวมถึงความได้เปรียบจากฐานรายได้ที่ต่ำจากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า บริเวณหน้าร้าน เพื่อให้บริการชาร์จรถไฟฟ้า ซึ่งมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
3.บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA มาร์เก็ตแคป 277,885.00 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2565 มีกำไร 7,604.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.66% จากงวดเดียวกันปี 2564 ที่มีกำไร 6,100 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยที่หนุนให้กำไรปี 65 เติบโต มาจากผลดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจขนส่งมวลชน ซึ่งมีรายได้สูงขึ้นประมาณ 10 เท่า รวมทั้งผลประกอบการของโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้น โดยรายได้ปี 2565 อยู่ที่ 27,546.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 6,988.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.99%
ทั้งนี้บริษัทฯ พัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จำนวนถึง 64 สถานี ซึ่งเปิดให้บริการแล้วจำนวน 43 สถานี และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งอีกจำนวน 21 สถานี
4.บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มาร์เก็ตแคป 242,400.00 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 65 บริษัทกำไร 10,370 ล้านบาท จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่วนมรายได้ขายและบริการ และ EBITDA เพิ่มขึ้น 277,986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.3% และ 273 ล้านบาท ตามลำดับ เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลาย ทำให้ภาพรวมปริมาณขายปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ
ปัจจุบัน OR มีจำนวนสถานีชาร์จ EV Station PluZ ที่เปิดให้บริการแล้ว รวม 115 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชัน EV Station PluZ สำหรับการใช้งานที่สถานีชาร์จ EV Station PluZ ซึ่งทาง OR ได้พัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อช่วยในการวางแผนเดินทาง ผ่านระบบนำทางไปยัง EV Station PluZ ที่เปิดให้บริการอยู่ตามเส้นทางถนน โดยสามารถทำการจองเพื่อเข้าชาร์จ เริ่ม-หยุดการชาร์จ ชำระเงิน และการตรวจสอบประวัติการใช้งาน ได้ด้วยแอปพลิเคชันเดียว รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ iOS, Android และเว็บแอปพลิเคชัน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถ EV ในทุกมิติ
โดยแผนในอนาคตเตรียมดำเนินขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถ EV โดยขยาย EV Station PluZ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมาย 7,000 เครื่องชาร์จ ในปี 2573
ล่าสุดได้ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ EV Station PluZ สำหรับพื้นที่โรงพยาบาลพญาไทและเปาโลฯ โดยจะติดตั้งรวม 11 แห่งทั่วประเทศ ถือเป็นการขยายเครือข่ายการให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า EV Station PluZ ในพื้นที่สถานพยาบาล ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566
5.บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP มาร์เก็ตแคป 42,340.39 ล้านบาท
ผลดำเนินงานประจำปี 2565 มีกำไรสุทธิ 12,575.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,623,790 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 312,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมี EBITDA 44,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับแผนงานธุรกิจ Non Oil ในปีนี้จะขยายสถานีชาร์จ (EV) ในปั๊มน้ำมันบางจากเพิ่มอีก 50-70 จุด จากปัจจุบัน 107 จุด และจะจับมือกับพันธมิตรใหม่อีก 2-3 รายให้เข้ามาตั้งจุดชาร์จ EV เพิ่มขึ้นอีก
6.บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มาร์เก็ตแคป 28,161.70 ล้านบาท
ผลดำเนินงานประจำปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 4,280 ล้านบาท เติบโต +112% จากปีก่อน อัตรกำไรสุทธิเท่ากับ 12.2% เพิ่มขึ้นจาก 6.8% ในปีก่อน และมีรายได้รวม 34,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +18% จากปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้เกือบทุกประเภทธุรกิจ
ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 127,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10,819 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม 83,411 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7,746 ล้านบาท นอกจากนี้ มีมติเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.11 บาทต่อหุ้น กำหนดผู้ได้รับสิทธิวันที่ 17 มี.ค. 2566 (ขึ้นเครื่องหมาย XD 16 มี.ค. 66) และจ่ายเงินวันที่ 17 พ.ค. 2566
ส่วนแผนงานในปีนี้วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง 52 โครงการ มูลค่า 75,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมมุ่งสู่ Net-Zero ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในทุกโครงการใหม่ ประเดิมปีนี้ 650 หลัง
7.บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG มาร์เก็ตแคป 22,044.00 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานปี 2565 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 179,785.88 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน จากธุรกิจ Oil ที่มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่ 934 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยกำหนดให้วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ พีทีจีได้เริ่มทำสถานีชาร์จรถอีวี โดยร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดทำจุดชาร์จในปั๊มน้ำมันที่เรียกกว่า Elex by EGAT ที่ผ่านมาขยายสาขาไปแล้ว 35 สาขา และปีนี้มีแผนจะเพิ่มจำนวนสาขาอีกเท่าตัว เป็นอย่างน้อย 70 สาขา และจะให้เป็น 180 สาขาในปี 2027
8.บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART มาร์เก็ตแคป 8,268.00 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2565 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจหลักรวม 2,238.6 ล้านบาท กำไร 301.9 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงได้รับกำไรจากการถือหุ้นใน บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัดในสัดส่วน 26.71% จากการที่ตู้เต่าบินขยายอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2566 บริษัทคาดการณ์งบลงทุนไว้ประมาณ 1,500 ล้านบาทเพื่อขยายทุกช่องทางทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ทั้งกลุ่มธุรกิจเติมเงิน และรับชำระเงิน, กลุ่มธุรกิจการเงินครบวงจรและตัวแทนธนาคาร (ฝาก ถอน โอนเงิน) รวมถึงกลุ่มธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (Vending Machine) ที่เป็นธุรกิจอนาคต S Curve อย่างตู้เต่าบิน Robotic Barista
และล่าสุดกับ GINKA Charge Point เรือธงใหม่ของบริษัท ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากการเปิดตัวต้นแบบก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างการผลิตเชิงพาณิชย์ช่วงเดือนเมษายน เพื่อติดตั้งขยายจุดบริการ 5,000 จุดในปีนี้ ตามแผนโมเดลธุรกิจร่วมธุรกิจกับเจ้าของพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศ เช่น คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ลานเช่าจอดรถ ลานจอดในตลาด ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น เชื่อว่าธุรกิจจะสร้างโอกาสและรายได้ให้กับบริษัทเป็นอย่างดีในระยะยาว เช่นเดียวกับตู้เต่าบิน Robotic Barista
นอกจากนี้ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท รวมเป็นเงิน 121 ล้านบาท จากผลประกอบการครึ่งหลังปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 ถึง 31 ธ.ค.2565 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 พร้อมจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566