วอลุ่มวูบ |ออฟเรคคอร์ด

วอลุ่มวูบ |ออฟเรคคอร์ด

ตลาดหุ้นมาทรงรีบาวด์ใกล้ 1,600 จุด แต่หันมาดู “วอลุ่ม” แล้วใจหายเพราะเริ่มเห็น “สัญญาณชะลอ - หยุดลงทุน ” หลังดัชนีพลิกกลับมาบวกได้ทำให้ตลอดทั้งวันซื้อ - ขายเพียง 35,000 ล้านบาท !!!

๐๐๐ วอลุ่มวูบ

      ตลาดหุ้นมาทรงรีบาวด์ใกล้ 1,600 จุดแต่หันมาดู “วอลุ่ม” แล้วใจหายเพราะเริ่มเห็น “สัญญาณชะลอ - หยุดลงทุน ” หลังดัชนีพลิกกลับมาบวกได้ทำให้ตลอดทั้งวันซื้อ - ขายเพียง 35,000 ล้านบาท !!!

       วอลุ่มบางเฉียบตกจากค่าเฉลี่ยระดับ 50,000 ล้านบาทต่อวัน ทำให้ลงทุนในตลาดหุ้นยากขึ้น  ด้วยบรรดาหุ้นใหญ่ขึ้นกลุ่มค้าปลีก แต่ ได้-เสีย ไม่คุ้ม ค่าความเสี่ยง เพราะหุ้นพาร่วง และยังหนักใจคือ กลุ่มแบงก์ 

       หุ้นแบงก์ไทยไร้ข้อกังวล อย่างสหรัฐ หรือยุโรป แต่พอเงินถูก   “allocate”  จากความไม่เชื่อมั่นสถาบันการเงิน ยิ่งในสหรัฐข่าวการถอนเงินออกจากแบงก์ยังมีอยู่ เลยทำให้ตลาดหุ้นไทยเจอหางเร่ไปเต็มๆ 

       อาการหุ้นไทยแบบนี้ แม้แต่ นักเทรดเดอร์ ยังออกตัวยาก เพราะเล่นรอบแทบจะไม่ได้ - จะเข้าหุ้นไหนก็ออกลำบาก   

        ส่วน “สายเก็บหุ้น” ถือว่าช้อนร่วงไปหลายรอบ เลยต้องอาศัย  “นิ่ง”  ดูจังหวะ SET  ลงลึก ยิ่งสาย “ เจ้ามือ”  ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพักร้อนเป็นที่เรียบร้อยเพราะวอลุ่มแบบนี้ ใส่ของไปก็ไม่มีใครตาม  แถมทำจังหวะ ซื้อ - ขาย หุ้นไม่ได้อีก 

      เรียกได้ว่าช่วงนี้  ตลาดซึม ของจริง  

๐๐๐

เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่หุ้นไทยแทบไม่ขยับไปไหน แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ หลังดูแล้วยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยไฮไลต์สัปดาห์นี้รอติดตามดูว่า กนง. จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกหรือไม่? พ่วงด้วยความหวังในการทำราคาปิดงวดบัญชี Window Dressing

โดยดัชนีฯ มาปิดการซื้อขายที่ 1,593.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด หรือ 0.10% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,595.86 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,586.01 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 36,048.98 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 75.19 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อ 371.95 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขาย 145.59 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขาย 301.56 ล้านบาท

๐๐๐

“กลุ่มพลังงานต้นน้ำ” ถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ยังร่วงไม่หยุด ล่าสุด น้ำมันดิบ WTI หลุดต่ำกว่า 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลต่อวิกฤติภาคธนาคารในสหรัฐ-ยุโรป กดดันเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบความต้องการใช้น้ำมัน

แต่ “กลุ่มโรงกลั่น” ยังประคองตัวได้ดีกว่า หลังค่าการกลั่นดูดีขึ้นจากช่วงปลายปีก่อน โดยบล.กรุงศรี พัฒนสิน มองราคาหุ้นโรงกลั่นอยู่ในโซนน่าลงทุนอีกครั้ง เพราะปรับฐานลงมาลึกแล้ว

ไม่แปลกที่หลายตัวยังประคองตัวยืนบวกได้อยู่ ทั้งบมจ.ไทยออยล์ (TOP) ปิด 52 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.97% ส่วนบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ปิด 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.63%

๐๐๐

หุ้นบมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ขึ้นมาปิด 14 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 2.94% รับข่าวดีหลังสามารถส่งมอบรถบรรทุกไฟฟ้าให้ “มนตรีทรานสปอร์ต” ได้ตามแผน หนุนผลงานไตรมาส 1 ปี 2566 โตต่อเนื่อง 

ด้านผู้บริหารมั่นใจรายได้ปีนี้จะทำออลไทม์ไฮได้แน่นอน หลังความต้องการยานยนต์ไฟฟ้ายังเพิ่มขึ้นคึกคัก และปีนี้มีแผนจะส่งมอบรถไฟฟ้าทุกประเภท

๐๐๐

“กลุ่มเครื่องดื่ม” ย่อตัวลงถ้วนหน้า หลังคลังเตรียมดีเดย์เก็บภาษีความหวาน 1 เม.ย. นี้ โดยบรรดากูรูมองว่าเป็นเพียงแค่ประเด็นกดดันทางจิตวิทยาเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ได้ปรับสูตรลดส่วนผสมลงตามเกณฑ์แล้ว ในทางตรงกันข้ามจะได้รับอานิสงส์จากอุณหภูมิที่ร้อนระอุ หนุนยอดขายโตรับซัมเมอร์

๐๐๐

ส่วนหุ้นบมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง (CIVIL) ราคาพลิกกลับมาบวกในช่วงท้ายตลาด หลังบริษัทในเครือคว้างานรถไฟไทยจีน สัญญาที่ 4-5 ซึ่งเป็นงานโยธา ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 1.03 หมื่นล้านบาท มาได้สำเร็จ หนุนราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 2.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 0.73%

๐๐๐

ร้อนแรงสุดๆ ไปเลย สำหรับหุ้นบมจ.เอสไอเอสบี (SISB) ราคาปิดที่จุดสูงสุดของวัน 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 10.38% หลังนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองบวกต่อตัวธุรกิจ หลังได้ประชุมร่วมกับผู้บริหาร แนวโน้มกำไรไตรมาส 1 ปี 2566 โต YoY และ QoQ ตามจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น และปีนี้เตรียมเปิดโรงเรียนแห่งใหม่ในนนทบุรี และระยองช่วงเดือนส.ค. นี้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์