‘หุ้นไทย’ ปิดพุ่ง 16 จุด ลุ้นงบไตรมาสแรกแจ่ม นโยบายพรรคการเมืองหนุน

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ (10 เม.ย.66) ทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,596.54 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,571.14 จุด และปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,593.13 จุด เพิ่มขึ้น 16.06 จุด หรือ 1.02% มูลค่าซื้อขาย 36,411.84 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. CPALL มูลค่า 1,750.66 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.23%

2. KBANK มูลค่า 1,599.92 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.54% 

3. BDMS มูลค่า 1,382.68 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.67%

4. GULF มูลค่า 1,227.68 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.37%

5. SCB มูลค่า 981.32 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 104.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.97%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงกว่าตลาดภูมิภาค 1% ซึ่งความเคลื่อนไหวโดยรวมการปรับขึ้นมาจากหุ้นที่กระจายไปหลายกลุ่ม เช่น ไฟฟ้า ค้าปลีก และกลุ่มการเงิน ขณะที่  DELTA เป็นองค์กรประกอบไม่เกิน 1 ใน 3 ของการปรับขึ้นในวันนี้ 

ขณะเดียวกัน ภาพรวมของตลาดเริ่มมอง ไปยังผลประกอบการไตรมาส 1/66 ขณะที่กลุ่มไฟแนนซ์ ที่มีการปรับตัวขึ้น จากนโยบายพรรคการเมืองที่มีการแข่งขัน จากนโยบายการเพิ่มรายได้ให้เงินช่วยเหลือ จึงเป็นตัวดันให้กลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่วันศุกร์ (7 เม.ย.66) ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้  

สำหรับ ตลาดหุ้นพรุ่งนี้ (11 เม.ย.66) ให้กรอบแนวต้านที่ 1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,620 จุด สาเหตุมาจากความคาดหวังของผลประกอบการไตรมาส 1/66 และผลดีจากนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ เป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดในระยะสั้นได้ 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์