ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 98 จุด ก่อนเผยตัวเลขเงินเฟ้อ

ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 98 จุด ก่อนเผยตัวเลขเงินเฟ้อ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(11 เม.ย.)ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ 98 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อและรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 98.27 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 33,684.79 จุด

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.17 จุด หรือ 0.00% ปิดที่ 4,108.94 จุด

ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 52.48 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 12,031.88 จุด

 

หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีต่างพุ่งขึ้นในวันนี้ ขานรับการทะยานขึ้นของบิตคอยน์ทะลุระดับ 30,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน

ราคาหุ้นของบริษัทโบอิง รวมทั้งกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังเปิดเผยว่า ทางบริษัทสามารถส่งมอบเครื่องบินจำนวนมากในเดือนมี.ค.

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้ ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังไม่ผ่านจุดสูงสุด

ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนก.พ.

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 5.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.5% ในเดือนก.พ.

หากดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวแตะระดับ 5.6% ในเดือนมี.ค.ตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2565 ที่ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้นมากกว่าเดือนก่อนหน้า และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 ที่ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้นมากกว่าดัชนี CPI ทั่วไป

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 21-22 มี.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้เช่นกัน โดยเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมดังกล่าว พร้อมกับส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้

บริษัทจดทะเบียนของสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2566 ในวันศุกร์

ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว