ดาวโจนส์พลิกร่วง 228 จุด กังวลวิกฤติธนาคารในสหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(26เม.ย.)พลิกร่วงลง 228 จุด ท่ามกลางความกังวลต่อวิกฤติธนาคารในสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงกว่า 1% ตามการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 228.96 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 33,301.87 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 15.64 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 4,055.99 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 55.19 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 11,854.35 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงกว่า 1% ตามการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก
ราคาหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ ร่วงลงเกือบ 30% ในวันนี้ หลังธนาคารเปิดเผยว่าลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566
FRB ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 หลังดิ่งลงเกือบ 50% วานนี้ และหากพิจารณาตั้งแต่ต้นปี 2566 ราคาหุ้น FRB ได้ทรุดตัวลงมากกว่า 90%
ราคาหุ้นโบอิงพุ่งกว่า 3% หลังบริษัทเปิดเผยแผนการเพิ่มการผลิตเครื่องบิน ขณะที่รายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 1/2566
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส อิงค์ หลังจากปิดตลาดวันนี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2566 ในวันนี้ รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)