ดาวโจนส์ทะยานกว่า 500 จุด รับผลประกอบการแอปเปิ้ล, หุ้นกลุ่มธนาคารฟื้นตัว

ดาวโจนส์ทะยานกว่า 500 จุด รับผลประกอบการแอปเปิ้ล, หุ้นกลุ่มธนาคารฟื้นตัว

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดวันศุกร์ (5พ.ค.)ปรับตัวเพิ่มขึ้น 546 จุด หลังจากบริษัทแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2566 และหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคก็ดีดตัวขึ้นหลังร่วงหนักก่อนหน้านี้

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dowjones เพิ่มขึ้น 546.64 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 33,674.38 จุด
  • ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 75.03 จุด หรือ 1.85% ปิดที่ 4,136.25 จุด
  • ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 269.01 จุด หรือ 2.25% ปิดที่ 12,235.41 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 546.64 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 33,674.38 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 75.03 จุด หรือ 1.85% ปิดที่ 4,136.25 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 269.01 จุด หรือ 2.25% ปิดที่ 12,235.41 จุด

การซื้อขายได้รับอิทธิพลหลังแอ๊ปเปิ้ลเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.52 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ 1.43 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้อยู่ที่ 9.484 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 9.296 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) อยู่ที่ 44.3% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 44.1% และรายได้จากการบริการอยู่ที่ 8.76 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 8.43 หมื่นล้านดอลลาร์

รายได้จากผลิตภัณฑ์ iPhone เพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 5.133 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.884 หมื่นล้านดอลลาร์

นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิ้ลเปิดเผยว่า ความแข็งแกร่งของยอดขาย iPhone เป็นปัจจัยหนุนกำไรและรายได้ของแอ๊ปเปิ้ลให้ออกมาดีเกินคาดในไตรมาส 2 เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนและวิกฤตห่วงโซ่อุปทานที่บรรเทาลงนั้น ช่วยให้บริษัทสามารถผลิต iPhone ได้ทันตามคำสั่งซื้อของลูกค้า หลังจากเมื่อปีที่แล้ว ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทต้องปิดโรงงานผลิต iPhone บางแห่ง

 

ราคาหุ้นแอปเปิ้ลพุ่งขึ้น 4.73% ในขณะนี้

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแพคเวสต์ (PacWest) พุ่งขึ้นกว่า 56% หลังร่วงหนักก่อนหน้านี้รับรายงานข่าวที่ว่าทางธนาคารอาจต้องขายกิจการ ส่วนหุ้นเวสเทิร์น อัลไลแอนซ์ (Western Alliance) ก็พุ่งขึ้นกว่า 38%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เพิ่งเปิดเผยไปนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. มากกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง แม้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงและเกิดวิกฤติภาคธนาคาร

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพิ่มขึ้น 0.5% เทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบรายปี มากกว่าการคาดการณ์ทั้งคู่

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ