'หุ้นไทย' พุ่งเกือบ 17 จุด ก้าวไกลประกาศตั้งรัฐบาล-เพดานหนี้สหรัฐคลี่คลาย

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย”  ปิดตลาดเช้า (18 พ.ค.) อยู่ที่ 1,538.92 จุด ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งดัชนีทำต่ำสุดอยู่ที่ 1,531 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,541.06 จุด เพิ่มขึ้น 16.18 จุด หรือ 1.00%  มูลค่าซื้อขาย 28,271.24 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. DELTA มูลค่า 2,320.08 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ 9.94%

2. CPALL มูลค่า 1,554.20 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.40%

3. PTTEP มูลค่า 1,113.96 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 3.46%

4. AOT มูลค่า 942.78 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 72.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดก่อนหน้า

5. BDMS มูลค่า 847.98 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 28.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.71%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอร์เรเตอร์  กล่าวว่า ดัชนีฯ ปิดตลาดเช้าบวกอย่างร้อนแรงอยู่ที่เกือบ 17 จุด เนื่องจาก 4 ประเด็นหลัก

1. เมื่อเวลา 10.00 ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมอื่น แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่น ทำให้ตลาดตอบรับในเชิงบวก แม้จะยังมีความไม่แน่นอนอีกจำนวนหนึ่ง
2. ประเด็นเพดานหนี้สหรัฐคลี่คลายมากขึ้น เพราะนักลงทุนมองว่าแต่ละฝ่ายพร้อมที่จะปรับลดงบประมาณและลดค่าใช้จ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
3. สถานการณ์ธนาคารในภูมิภาคสหรัฐดีขึ้น โดยไม่กี่วันที่ผ่านมา หลายธนาคารรายงานว่า ปริมาณเงินฝากปรับตัวสูงขึ้นอย่างสดใส
4. ราคาน้ำมันมีจังหวะฟื้นตัว โดยน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 3%

“หลายกลุ่มนำตลาดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวกลับมาหลังจากลงไปลึก อย่าง PTTEP ก็บวกประมาณ 3% แบงก์ใหญ่ๆ ก็รวมกันบวกประมาณ 1% กว่าๆ รวมทั้ง DELTA ก็ดันดัชนีฯ ขึ้นประมาณ 7 จุด”