'อัลฟ่าเซค' เผย 10 เทรนด์ไฮเทค กระทบโลกการเงินปี 2025

'อัลฟ่าเซค' เผย 10 เทรนด์ไฮเทค กระทบโลกการเงินปี 2025

'อัลฟ่าเซค' เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยี ทรงอิทธิพลต่อระบบชำระเงิน - ผู้บริโภคปี 2025 “AI” ปราการด่านสำคัญป้องกันภัยไซเบอร์ “ดิจิทัล” ผสานไปในหลายมิติ "บล็อกเชน" เพิ่มความเร็ว เผยอัปเดทล่าสุด “เดอะมอลล์กรุ๊ป” ผ่านการรับรองมาตรฐาน PCI DSS v4.0.1 เสริมความปลอดภัยระบบชำระเงิน

นิพนธ์ นาชิน ผู้ตรวจประเมิน QSA จากบริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด กล่าวถึง แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของระบบการชำระเงินในอนาคตที่คาดการณ์ไว้สำหรับปี 2025 โดยเน้นไปที่ 10 เทรนด์สำคัญที่จะมีผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคประกอบด้วย

1. การชำระเงินแบบไร้ตัวเลขบัตร: ภายในปี 2030 การชำระเงินออนไลน์จะไม่จำเป็นต้องใช้หมายเลขบัตรหรือรหัสผ่านอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยี tokenization, การยืนยันตัวตนทางชีวมิติ และกระเป๋าเงินดิจิทัล Click to Pay

2. AI ป้องกันการโจมตีจาก AI: AI ถูกนำมาใช้ในการป้องกันภัยไซเบอร์  ที่สามารถตรวจจับการฉ้อโกงในเวลาเพียงระดับมิลลิวินาทีเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันได้สูงสุดถึง 300%

3. เครื่องมือดิจิทัลสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก: ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่รวมฟังก์ชันจัดการงานธุรการและการตลาด พร้อมข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการตัดสินใจ

4. การรวมตัวทางดิจิทัล: กระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ไม่มีบัญชีธนาคาร โดยสามารถเชื่อมโยงกับระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิม

5. การยืนยันตัวตนดิจิทัล: เทคโนโลยี passkeys และการยืนยันตัวตนทางชีวมิติกำลังขยายตัวในหลากหลายภาคส่วน เช่น สุขภาพ การศึกษา และบริการสาธารณะ

6. การชำระเงิน B2B ที่ง่ายขึ้น: การใช้บัตรเสมือน (virtual cards) ช่วยลดข้อผิดพลาด เพิ่มความปลอดภัย และให้ข้อมูลเรียลไทม์แก่ธุรกิจ

7. เทคโนโลยี Tap on Phone: อุปกรณ์ใดๆ สามารถกลายเป็นเครื่องรับชำระเงินได้ ลดโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน และยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้

8. การชำระเงินแบบเรียลไทม์: การชำระเงินแบบเรียลไทม์ขยายตัวสู่ 100 ประเทศ และเริ่มเชื่อมโยงกับสกุลเงินดิจิทัลเพื่อการทำธุรกรรมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

9. การร่วมมือในระบบนิเวศดิจิทัล: การร่วมมือระหว่างฟินเทค รัฐบาล และสถาบันการเงินช่วยสร้างโซลูชันที่ง่ายต่อการเข้าถึงและเพิ่มความไว้วางใจในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

10. เทคโนโลยีบล็อกเชนและเศรษฐกิจโทเคน: การใช้ tokenization และบล็อกเชนช่วยเพิ่มความเร็ว ความปลอดภัย และลดต้นทุนในระบบการเงิน โดยเฉพาะในธุรกรรม B2B และการจัดการสินทรัพย์

แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการชำระเงินในอนาคต ที่จะทำให้ผู้บริโภคและธุรกิจสามารถเข้าถึงระบบที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

สำหรับในประเทศไทย ล่าสุด บริษัท อัลฟ่าเซค ได้รับรอง มาตรฐาน PCI DSS v4.0.1  (The Payment Card Industry Data Security Standard ) ให้แก่ เดอะมอลล์กรุ๊ป ซึ่งนับเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดในการปกป้องข้อมูลการชำระเงิน ขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในอนาคต

\'อัลฟ่าเซค\' เผย 10 เทรนด์ไฮเทค กระทบโลกการเงินปี 2025 การได้รับการรับรองครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ส่วนของธุรกิจหากได้ทำตามมาตรฐานแล้วจะทำให้ระบบขององค์กรมีความมั่นคงปลอดภัย และจะช่วยลดโอกาสและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการรั่วไหลของข้อมูลบัตรเครดิต ถือเป็นก้าวสำคัญของเดอะมอลล์กรุ๊ปในการสร้างระบบที่มีความปลอดภัยสูงสุดและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จิรยุทธ์ กาญจนมยูร CHIEF INFORMATION OFFICER (CIO) บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด เผยว่า การผ่านมาตรฐาน PCI DSS 4.0.1 เป็นผลลัพธ์ของการทำงานที่ต่อเนื่องและทุ่มเทของทีมงานทุกฝ่าย โครงการนี้เริ่มจากการวางแผนที่ครอบคลุมและการประเมินจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้ระบบ POS มีความปลอดภัยสูงสุดและตอบโจทย์การใช้งานในยุคดิจิทัล

มาตรฐาน PCI DSS เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของระบบ POS  การได้รับการรับรองครั้งนี้ไม่เพียงแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องข้อมูลของลูกค้า แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของเราในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความมั่นใจในบริการทุกมิติ