KBANK เตรียมส่งหนังสือให้ STARK ชำระเงินคืนทันที 2 พันล้าน
มติผู้ถือหุ้นโหวต Call Default หุ้นกู้ "สตาร์ค" 2 รุ่น "STARK239A - STARK249A" เรียกเงินคืนทันที 2 พันล้าน ด้าน เคแบงก์ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
ต้องทำหนังสือแจ้ง STARK ภายใน 5 วัน เพื่อให้ชำระหนี้ทั้งหมดภายใน 30 วัน
วงในเผยผู้ถือหุ้นกู้ฯ ยอมเสียงแตก พร้อมเดิมพันหวังได้เงินคืน
บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ได้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันนี้ (31 พ.ค.) เพื่อพิจารณายกเว้นเหตุผิดนัดอันเกิดจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ส่งแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2565 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายและข้อกำหนดสิทธิกำหนด และการเรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call Default) (จะมีการพิจารณาลงมติในวาระตามข้อ 2 เฉพาะในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติ "ไม่ยกเว้นเหตุผิดนัด" ในวาระที่ 1)
รายงานข่าวกล่าวว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ฯ มีมติเห็นชอบให้เรียกคืนหนี้เงินต้นและ ดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call Default) มีจำนวน2 รุ่น คือ STARK239A และ STARK249A โดยเรียกเงินคืนทันทีกว่า 2 พันล้านบาทนั้น
นางสาวศิรินารถ อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ ทางผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (ธนาคารกสิกรไทย) จะต้องทำหนังสือแจ้ง STARK ภายใน 5 วัน เพื่อให้ชำระหนี้ทั้งหมด(เงินต้น/ดอกเบี้ย) รวมมูลหนี้ 2 รุ่น มูลค่าประมาณ 2,241ล้านบาท ภายใน 30 วัน ให้เรียบร้อยตามข้อกำหนดสิทธิ ไม่เช่นนั้นจะถือว่า Default หากยังไม่จ่ายจะเข้าสู่กระบวนการฟ้อง ร้องดำเนินคดีต่อไป ในลักษณะเดียวกับหุ้นกู้ EARTH ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ส่วนหุ้นกู้ที่เหลืออยู่มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทนั้น ยังต้องรอดูว่าจะเข้าข่าย Cross Default (ผิดนัดชำระทั้งหมดมูลค่าเกิน3%ของสภาพคล่อง) หากพิจารณางบการเงิน STARK ไตรมาส3/2565 มีมูลหนี้ชำระเกิน200-300ล้านบาท ถือว่าเข้าข่ายCross Default แล้วSTARK ยังไม่มีการนำส่งงบการเงินล่าสุด ทำให้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดว่าหุ้นกู้รุ่นอื่นๆจะเข้าข่าย Cross Default ซึ่ง STARK ยังพอมีเวลาอีก 35 วันที่จะนำเงินมาชำระหนี้ทั้งหมดให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทั้งสองรุ่นดังกล่าว
แหล่งข่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ฯ กล่าวว่า ตลาดและผู้ถือหุ้นกู้ STARK ส่วนใหญ่เตรียมตัวเตรียมใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้ไว้บ้างแล้ว เพราะที่ผ่านมาเป็นเดือน STARK ยังไม่มีความชัดเจนหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องงบการเงินที่ยังไม่สามารถนำส่ง แต่ก็ยังมีสามารถชำระหนี้ดอกเบี้ยได้มาตลอด
ดังนั้น ผู้ถือหุ้นกู้2รุ่นนี้ ส่วนใหญ่เป็นสถาบัน (กองทุน ประกันและธนาคาร) อาจมีเสียงแตกที่ไม่อยากรอ จึงตัดสินใจที่เลือก Call Default หลังจากนี้คงต้องรอดูว่าทางSTARK จะมีเงินชำระคืนหนี้ได้หรือไม่ ภายใน 30วัน
"คาดว่าทาง STARK น่าจะพอยังพอมีเงิน หากไม่ได้ลงทุนเพิ่มเติมหรือมีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล เนื่องจากช่วงปลายปีก่อนบริษัทเพิ่งมีการระดมเงินเพิ่มไปแล้ว"
สำหรับหุ้นกู้STARK 2รุ่น ที่ถูกเรียก Call Defaultได้แก่ 1.หุ้นกู้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่1/2564 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 (STARK239 A) จำนวนหุ้นกู้ที่ออกและจำนวนเงินต้นที่ออก 1,291.50 ล้านบาท วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ 2 ก.ย.2566
2.หุ้นกู้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567
(STARK249 A) จำนวนหุ้นกู้ที่ออกและจำนวนเงินต้นที่ออก จำนวน 949.50 ล้านบาท วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ 2ก.ย. 2567
โดยขั้นตอนหลังจากนี้เจ้าหนี้หุ้นกู้สามารถเรียกร้องค่าเสียหายผ่านผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ต้องทำหนังสือ แจ้งกับ STARK ภายใน 5 วัน เพื่อให้ชำระหนี้ทั้งหมดคืนภายใน 30 วัน