ดาวโจนส์ร้อนแรง ทะยานกว่า 100 จุด ขานรับคืบหน้าขยายเพดานหนี้
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(1มิ.ย.)ปรับตัวขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับความคืบหน้าในการผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ในสภาคองเกรส
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 153.30 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 33,061.37 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 41.19 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 4,221.02 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 165.70 จุด หรือ 1.28% ปิดที่ 13,100.98 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 153.30 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 33,061.37 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 41.19 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 4,221.02 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 165.70 จุด หรือ 1.28% ปิดที่ 13,100.98 จุด
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้วานนี้ ขณะที่วุฒิสภาจะทำการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในวันนี้
"เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้มาถึงวุฒิสภา ผมจะบรรจุเป็นวาระพิจารณาโดยด่วนที่สุด" นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภากล่าว
ด้านนายมิตช์ แมคคอนเนล แกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา กล่าวเช่นกันว่า "ผมจะไม่รีรอที่จะให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนี้"
หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า "พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง" (Fiscal Responsibility Act) ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 29.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%
นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน ว่าที่รองประธานเฟด เป็นเจ้าหน้าที่เฟด 2 รายล่าสุดซึ่งส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
"ผมอยู่ในกลุ่มซึ่งคิดว่าเราควรระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้" นายฮาร์เกอร์กล่าว และเสริมว่า "ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในวันศุกร์อาจเปลี่ยนใจผมได้"
ส่วนนายเจฟเฟอร์สันกล่าวว่า "การระงับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.จะช่วยให้ FOMC เห็นข้อมูลมากขึ้น ก่อนที่จะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับขอบเขตการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป"