หุ้นไทยวันนี้ 20 ก.ค.66 แกว่งตัว 1,530 - 1,545 จุด จัดตั้งรัฐบาล-โหวตนายกกดดัน

หุ้นไทยวันนี้ 20 ก.ค.66 แกว่งตัว 1,530 - 1,545 จุด จัดตั้งรัฐบาล-โหวตนายกกดดัน

หุ้นไทยวันนี้ 20 ก.ค.66 โบรกคาด แกว่งตัว 1,530 - 1,545 จุด ความไม่แน่นอนการเมืองภายในประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตนายกฯจะกดดันให้ดัชนีผันผวน

หุ้นไทยวันนี้ 20 ก.ค.66 นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,530 - 1,545 จุด แม้ภาวะตลาดจะยังคงได้แรงหนุนจาก Fund flow ต่างชาติตามคาดการณ์ FED ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อชะลอตัวลง ,การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนการเมืองภายในประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตนายกฯจะกดดันให้ดัชนีผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน :

  • BBL KTB KBANK SCB SAPPE ICHI CBG INTUCH ADVANC BEM WHA MINT AOT SISB SPA TKN แนวโน้มกำไร 2Q23F เติบโต
  • หุ้นอิงกระแสการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน  IVL PTTGC SCGP DOHOME GLOBAL

ดัชนี SET INDEX ปิดตลาดวานนี้ 19 ก.ค.66

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :


(-) การเมืองยังไม่จบ สภาลงมติเสนอชื่อโหวตเลือกนายกฯ รอบที่ 2 ไม่ได้: วานนี้ที่ประชุมสภาฯ มีมติ 394 เสียง ต่อ 312 เสียง ว่า การเสนอชื่อ คุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อโหวตเลือกเป็นนายกครั้งที่ 2 ไม่ได้ เพราะขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาฯ ส่งผลให้การเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลยังล่าช้าเป็นลบต่อแนวโน้ม ศก. ไทยในช่วงครึ่งปีหลัง โดยลำดับถัดไปประธานสภาฯ นัดประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 27 ก.ค.2023


(+) อังกฤษประกาศอัตราเงินเฟ้อลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้: อังกฤษประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 7.9% จาก 8.7% ในเดือน พ.ค. และลดลงมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 8.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 6.9% จาก 7.1% ในเดือน พ.ค. จากตัวเลขข้างต้นสะท้อนแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อทยอยลดลงต่อเนื่อง


(+/-) วันนี้ติดตามจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR 1 และ 5 ปี เพื่อกระตุ้น ศก. เพิ่มเติมหรือไม่: วันนี้จีนจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเพื่อประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อลูกค้าชั้นดี (LPR) 1 ปี และ 5 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทางการจีนจะใช้ในการกระตุ้น ศก. ได้ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย LPR 1 ปี และ 5 ปี อยู่ที่ระดับ 3.55% และ 4.2% ตามลำดับ